การใช้พลังงานหมุนเวียนมีความสำคัญอย่างไร

จากรายงานของ Bitcoin Mining Council พบว่าในไตรมาสแรกของปี 2022 อุตสาหกรรมการขุดบิตคอยน์ทั้งหมดได้ใช้พลังงานหมุนเวียนถึง 58.4% ถือว่าการขุดบิตคอยน์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานแบบยั่งยืนเป็นอับดับต้นๆของโลก และยังพบว่าบิตคอยน์มีการใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 59%

ซึ่งผลการรายงานนี้ทำให้ภาพลักษณ์ด้านการใช้พลังงานในการขุดบิตคอยน์ดูดีขึ้น เพราะโดยปกติแล้ว ผู้คนมักกังวลเกี่ยวกับการขุดบิตคอยน์ที่ใช้พลังงานปริมาณมาก เช่น การขุดบิตคอยน์ใช้พลังงานพอๆกับประเทศเล็กๆหนึ่งประเทศซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นข้อเท็จจริง การที่บิตคอยน์พึ่งพาพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นจึงเป็นการลดข้อกังวลของผู้คนไปได้มาก

การที่บิตคอยน์ต้องพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นส่งผลให้บริษัทที่ทำด้านพลังงานหมุนเวียนเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน เช่น บริษัทด้านพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ พลังงานน้ำที่มีลูกค้าเป็นเหมืองขุดบิตคอยน์ เมื่อบริษัทเหล่าเติบโตขึ้นจะเกิดการแข่งขันและพัฒนา ต้นทุนพลังงานอาจจะต่ำลง ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้น เกิดเป็นวัฏจักรที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนได้

สำหรับใครที่ต้องการใช้พลังงานหมุนเวียนกับเครื่องขุดที่มี นี่คือภาพรวมของพลังงานหมุนเวียนในปัจจุบัน

พลังงานแสงอาทิตย์

พลังงานส่งตรงจากดวงอาทิตย์ มีจุดเด่นตรงที่ว่าเราสามารถใช้ที่ไหนก็ได้บนโลกขอแค่มีแสงแดด มีการประมาณการณ์ว่าเพียงแค่ 1 ชั่วโมงครึ่งที่แสงอาทิตย์ส่องมายังโลก จะมีพลังงานเพียงพอที่จะใช้ได้ทั้งโลกเป็นเวลา 1 ปี

พลังงานแสงอาทิตย์คือแหล่งพลังงานที่เติบโตเร็วที่สุด เติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 33% ซึ่งคาดว่าจะเป็นแหล่งพลังงานที่เติบโตมากที่สุดในอนาคต ด้วยต้นทุนการติดตั้งที่ลดลงจะทำให้พลังงานแสงอาทิตย์เข้าถึงผู้คนที่ต้องการใช้ได้มากขึ้น และคาดว่าต้นทุนของพลังงานแสงอาทิตย์จะลดลงจาก 15% เป็น 35% ในปี 2024

เกร็ดเพิ่มเติม โซลาร์เซลล์ใช้แสงแดดในการสร้างพลังงาน ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีอากาศที่ร้อน อากาศที่ร้อนมีแต่จะทำให้เครื่องเสียเร็วขึ้น

พลังงานลม

พลังงานลมเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ไม่ทำอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมันไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อน ดังนั้นการใช้พลังงานลมจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกับพลังงานจากการเผาไหม้ เช่น น้ำมัน และถ่านหิน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่น้อยในระยะยาว ถึงแม้มันจะมีต้นทุนเริ่มต้นสูง แต่ค่าใช้จ่ายในการทำงานและดูแลระบบน้อยกว่า ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เสถียรและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

ซึ่งในไทยก็มีแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ของ Wind Energy Holding ที่มีกังหันลมกว่า 270 ต้น ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดชัยภูมิ ผลิตไฟฟ้าออกมาแล้วกว่า 1 ล้านเมกะวัตต์

พลังงานน้ำ

พลังงานน้ำเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกและสร้างไฟฟ้าได้อย่างมีเสถียรภาพ เพราะเป็นการนำน้ำที่มีธรรมชาติในการไหลจากที่สูงลงไปที่ต่ำไปหมุนขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งมั่นใจได้ว่าพลังงานไฟฟ้าจะถูกผลิตต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง

และสามารถเก็บพลังงานส่วนเกินด้วยการสูบน้ำขึ้นไปเก็บไว้ที่เดิม เมื่อต้องการผลิตไฟฟ้าก็ปล่อยน้ำไหลลงมาเข้าเครื่องผลิต เขื่อนส่วนใหญ่จะมีวิธีการบริหารจัดการน้ำให้มีมากพอในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งเขื่อนส่วนใหญ่ในประเทศไทยก็มีปริมาณน้ำมากพอสำหรับใช้สอยและผลิตไฟฟ้าได้ทั้งปี

พลังงานความร้อนใต้พิภพ

พลังงานความร้อนใต้พิภพเป็นแหล่งพลังที่ไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ เพราะใต้โลกของเรานั้นร้อนอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าสภาพอากาศใด ซึ่งมีปริมาณพลังงานเก็บไว้มากกว่าน้ำมันและก๊าซ 50,000 เท่าโดยประมาณ แหล่งพลังงานนี้จะพบได้ที่บริเวณที่แผ่นเปลือกโลกมาชนกัน หรือบริเวณภูเขาไฟ หมายความว่าพื้นที่ที่จะนำพลังงานความร้อนใต้พิภพมาใช้ได้มีจำกัด อุตสาหกรรมแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพจึงเติบโตช้าๆที่ 2% ต่อปี แต่มั่นใจได้ว่าพลังงานนี้จะไม่มีวันหมดลง เพราะถ้าความร้อนใต้พิภพหายไป หมายความว่าโลกก็คงอยู่ไม่ได้แล้ว

พลังงานจากคลื่นน้ำ

ในทะเลนั้นมีคลื่นน้ำซัดกระหน่ำอยู่ตลอดเวลา จึงมีการหาวิธีใช้ประโยชน์จากมัน ด้วยการนำเครื่องผลิตไฟฟ้าไปวางไว้ในทะเลให้คลื่นกระทบแล้วสร้างกระแสไฟฟ้า ซึ่งมันไม่สร้างมลพิษและมั่นใจได้เช่นกันว่าคลื่นจะไม่หมดไป

และระบบกำเนิดไฟฟ้าใช้พื้นที่น้อยไม่ต้องใช้พื้นที่กว้างขวางเมื่อเทียบกับพลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม แต่ก็มีข้อจำกัดคือมันต้องติดตั้งในทะเล ซึ่งบางประเทศในโลกก็ไม่มีพื้นที่ติดกับทะเลทำให้ไม่สามารถใช้แหล่งพลังงานชนิดนี้ได้

พลังงานจากของเสีย

พลังงานสามารถสร้างได้จากการเผาของเสียชีวภาพ เช่น ไม้ ขยะ ผลผลิตทางการเกษตร และมูลสัตว์ แล้วนำความร้อนที่ได้ไปต้มน้ำให้กลายเป็นไอน้ำ นำไอน้ำไปหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ถึงวิธีนี้จะเกิดการเผาไหม้และก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกอยู่บ้าง แต่มันสามารถช่วยลดปัญหาขยะที่สะสม ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่จะนำขยะไร้มูลค่ามาเปลี่ยนเป็นพลังงานที่มีมูลค่ามหาศาล