กระบวนการคืนทรัพย์สินโดยสมัครใจ นำไปสู่การกู้คืนบิตคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งให้คืน 94,643 BTC ที่ถูกยึดหลังการแฮ็ก Bitfinex ในปี 2016 กลับไปยังแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตแห่งนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงชดใช้ความเสียหาย (Voluntary Restitution) ที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงรับสารภาพของผู้กระทำผิด
การกู้คืนครั้งนี้มีมูลค่ารวม กว่า 9 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นหนึ่งในการกู้คืนสินทรัพย์จากอาชญากรรมไซเบอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต
ย้อนรอยคดีแฮ็ก Bitfinex ปี 2016
การโจมตีในปี 2016 ถูกดำเนินการโดย Ilya Lichtenstein ซึ่งสามารถแทรกซึมระบบรักษาความปลอดภัยของ Bitfinex และขโมย 119,754 BTC จากบัญชีผู้ใช้งาน
เพื่อลดผลกระทบ Bitfinex ได้ออกมาตรการเยียวยาผู้ใช้ด้วยการลดยอดคงเหลือในบัญชีทุกบัญชี 36% และออกโทเคน BFX เป็นค่าชดเชย ซึ่งสามารถแลกเป็นเงินสดหรือแปลงเป็นหุ้นของ iFinex บริษัทแม่ของ Bitfinex ได้ นอกจากนี้ยังมีการออกโทเคน Recovery Right Token (RRT) เพื่อให้ผู้ใช้งานมีสิทธิได้รับเงินคืนในกรณีที่สามารถกู้คืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย
การจับกุมและการกู้คืนสินทรัพย์
ในปี 2022 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) สามารถถอดรหัสข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ ซึ่งเป็นหลักฐานมัดตัว Lichtenstein และภรรยาของเขา Heather Morgan ในข้อหาฟอกเงิน และในที่สุดทั้งคู่ได้ให้การรับสารภาพ
การให้ความร่วมมือของพวกเขาช่วยให้ทางการสามารถกู้คืน 80% ของบิตคอยน์ที่ถูกขโมย ทำให้กลายเป็นการยึดทรัพย์สินดิจิทัลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ DOJ
คำตัดสินของศาล และกระบวนการคืนทรัพย์สิน
แม้ศาลจะมีคำสั่งคืน BTC ให้ Bitfinex แต่ได้ระบุว่า Bitfinex และผู้ใช้ไม่ได้ถูกจัดว่าเป็น “เหยื่อ” ตามกฎหมาย Mandatory Victims Restitution Act อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาอาศัยข้อตกลงรับสารภาพที่อนุญาตให้มีการคืนทรัพย์สินโดยสมัครใจ
การคืนสินทรัพย์นี้ครอบคลุมเฉพาะ BTC ที่ถูกแฮ็กโดยตรง ส่วนสินทรัพย์อื่นๆ ที่ถูกฟอกเงินออกไปจะถูกพิจารณาในกระบวนการ “Ancillary Forfeiture” หรือการริบทรัพย์สินเพิ่มเติม
ศาลยังเปิดโอกาสให้บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการแฮ็กสามารถยื่นคำร้องหรือคัดค้านการคืนสินทรัพย์นี้ได้จนถึงวันที่ 28 มกราคม 2025
ผลกระทบต่อผู้ใช้ Bitfinex และตลาดคริปโต
Bitfinex ยืนยันว่ามีแผนจะใช้สินทรัพย์ที่กู้คืนมาเพื่อไถ่ถอนโทเคน RRT ที่เคยแจกจ่ายให้ผู้ใช้ในปี 2016 ซึ่งออกแบบมาเพื่อกระจายเงินคืนให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบ
กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของ ระบวนการชดใช้ความเสียหายในโลกคริปโต ที่ยังคงมีข้อพิพาทเกี่ยวกับสถานะของเหยื่อและการเป็นเจ้าของสินทรัพย์
กระบวนการพิจารณาคดีเพิ่มเติม รวมถึงข้อคัดค้านจากผู้ใช้ อาจมีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวทางการจัดสรรทรัพย์สินที่เหลือ
บทสรุป: คดี Bitfinex อาจเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการคืนสินทรัพย์ในคริปโต
ด้วยเส้นตายวันที่ 28 มกราคม 2025 ใกล้เข้ามา คดีนี้ถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญเกี่ยวกับการกู้คืนสินทรัพย์ดิจิทัลและสิทธิ์ของผู้ได้รับผลกระทบ
การตัดสินใจของศาลและ DOJ ในกรณีนี้ อาจกลายเป็นบรรทัดฐานทางกฎหมายสำหรับคดีอาชญากรรมไซเบอร์ในวงการคริปโตในอนาคต
Reference : Bitcoin News