การขุดบิทคอยน์ ( Bitcoin mining) คืออะไร

        ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คงจะต้องเปรียบเทียบกับการขุดเหมืองที่เป็นการขุดหาแร่ที่มีอยู่ในดินเพื่อนำมาขายในตลาด เช่นเดียวกันกับการขุดบิตคอยน์ก็เป็นการค้นหาเหรียญเพื่อมาขายในตลาดเช่นกัน โดยทั้งแร่เเละบิทคอยน์ มีความเหมือนกัน คือทั้งสองอย่างมีจำนวนที่จำกัด คือมีวันที่จะขุดจนหมดนั่นเอง

      ก่อนที่จะพูดถึงการขุดบิทคอยน์ เราต้องเริ่มจากการพูดถึงระบบเบื้องหลังของบิทคอยน์ นั่นคือเทคโนโลยีบล็อกเชน ( Blockchain ) อธิบายบล็อกเชนแบบให้เข้าใจได้ง่ายก็คือเทคโนโลยีที่ไว้รักษาความปลอดภัย โดยการใช้คอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องมาเชื่อมต่อกันแบบไร้ศูนย์กลาง ซึ่งเวลาจะบันทึกข้อมูลใดๆลงในระบบก็ต้องได้รับการยืนยันโดยทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกันในโครงข่าย เมื่อมีคอมพิวเตอร์ในโครงข่ายมากขึ้นความเป็นไปได้ในการทำลายระบบหรือปลอมแปลงข้อมูลลงในบล็อกเชนก็จะน้อยลงเรื่อยๆ แล้วบิทคอยน์นี้เองซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้งานได้อย่างดีในระบบบล็อกเชน เพราะบิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่ไม่ต้องการให้มีใครควบคุม แล้วก็สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะการที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึมของบิทคอยน์นั้นแทบเป็นไปได้นอกจากจะต้องมีกำลังในการประมวลผลมากกว่า 51 เปอร์เซ็นต์ หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งในระบบ ซึ่งตอนนี้กำลังประมวลผลทั้งหมดมีอยู่ที่เกือบ 200 ล้าน TH/s

       การที่จะขุดบิทคอยน์ออกมาได้ หรือกล่าวอีกอย่างคือกระบวนการที่จะเกิดบิทคอยน์มานั้น ต้องใช้คอมพิวเตอร์มาทำการประมวลผลหาคำตอบของสมการที่อัลกอริทึมสร้างขึ้นมาในแต่ละบล็อก โดยสมการนั้นจะมีความยากในการหาคำตอบเเต่ง่ายในการตรวจสอบคำตอบ โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำการค้นพบคำตอบได้ก่อน และได้รับการยืนยันว่าถูกต้องโดยสมาชิกโครงข่ายทุกคนแล้ว คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะได้ค่าตอบแทนเป็นบิทคอยน์ที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มบล็อกใหม่ในบล็อกเชนและค่าธรรมเนียม ( Transaction fees ) ซึ่งรวมกันแล้วผู้ที่ขุดพบจะได้เป็นรางวัลสำหรับการสร้างบล็อกใหม่นี้ ( Block Reward ) โดยข้อมูลและค่า Hash ซึ่งมีไว้ตรวจสอบคำตอบของบล็อกก่อนหน้าจะถูกบันทึกลงในบล็อกเเละกระบวนการก็จะเป็นเช่นนี้ทุกบล็อก เมื่อทำการบันทึกบล็อกต่อกันไปเรื่อยๆเปรียบเสมือนมีสายเชื่อมต่อแต่ละบล็อกเข้าด้วยกัน จึงเรียกเป็น Blockchain นั่นเอง

           ในตอนแรกเราได้เปรียบเทียบบิทคอยน์กับการขุดเหมืองเอาไว้ แต่ทั้งสองอย่างก็มีความแตกต่าง หนึ่งความแตกต่างกันของการขุดบิทคอยน์และการขุดเหมืองแร่คือ อุตสาหกรรมเหมืองทั่วไปเมื่อเพิ่มกำลังการขุด ก็จะทำให้ขุดได้มากขึ้น อุปทานของแร่เพิ่มเร็วขึ้น แต่สำหรับบิทคอยน์แล้วการเพิ่มกำลังการขุดไม่ได้เป็นการเพิ่มอัตราการขุดพบของเหรียญเป็นอย่างใด ถึงกำลังการขุดของทั้งโลกจะเพิ่มเป็นสองเท่า แต่บิทคอยน์ก็เกิด 6.25 เหรียญต่อ 10 นาทีอยู่ดี นี่เป็นหนึ่งสิ่งหนึ่งที่ดีของบิทคอยน์ เพราะอุปทานของเหรียญเพิ่มในอัตราที่ช้าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าบิทคอยน์เป็นแหล่งเก็บมูลค่าได้ดีเปรียบเสมือนทองคำในรูปแบบดิจิทัลเลยก็ว่าได้ แต่การเพิ่มกำลังการขุดก็เป็นผลดีของผู้ขุด ( Miners ) อยู่ เพราะเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งของผลตอบแทนที่จะได้ เนื่องจากตอนนี้มีการรวมกำลังการขุดกันเป็น Pool ซึ่งรวมกำลังการขุดกันมากโอกาสที่จะแก้สมการได้ก่อนก็มีมากกว่า แล้วเมื่อเรามีสัดส่วนของกำลังการประมวลผลใน Pool ในสัดส่วนที่มาก เราก็จะได้ผลตอบแทนมากขึ้นนั่นเอง Pool คืออะไร

           เเล้วบิทคอยน์จะหมดตอนไหน? ใกล้จะหมดหรือยัง?

         Satoshi Nakamoto ผู้สร้างเหรียญบิทคอยน์ ได้ทำการกำหนดจำนวนเหรียญที่สามารถขุดได้ไว้ทั้งหมดที่ 21 ล้านเหรียญ โดยตอนนี้บิทคอยน์ถูกขุดมาเเล้วทั้งสิ้นประมาณ 18.9 ล้านเหรียญ เเต่เหรียญที่ยังไม่ได้ขุดอีก 2.1 ล้านเหรียญไม่ได้หมายความว่าบิทคอยน์ใกล้จะขุดพบหมดเเล้ว เพราะผู้สร้างเหรียญได้ทำการกำหนดอัตราการขุดพบเหรียญไว้ โดยที่เมื่อขุดพบครบจำนวน 210,000 บล็อก อัลกอริทึมของเหรียญจะทำการลดการขุดพบหรือคือการลด Block reward ลงครึ่งหนึ่ง (Halving) โดยบล็อกเริ่มเเรกที่มีการขุดออกมาจะได้บิทคอยน์จำนวน 50 เหรียญ ซึ่งการที่บิทคอยน์จะถูกขุดพบครั้งหนึ่งใช้เวลาประมาณ 10  นาที ( 1 บล็อกใช้เวลาคำนวณประมาณ 10 นาที ) หมายความว่าการ Halving ครั้งเเรกเกิดหลัง 4 ปีเเรกหลังจากเกิดของบิทคอยน์นั่นคือปี 2012 หลังจากนั้นขุดได้ที่ 25 เหรียญต่อบล็อก เเล้วในปี 2016 ก็เกิดการ halving อีกครั้ง โดยที่เหรียญขุดได้ต่อบล็อกจะเป็น 12.5 ผ่านมาปี 2020 ก็เกิดการ Halving อีกครั้งลดเป็น 6.25 โดยคำนวณระยะเวลาที่จะเกิดการ Halving ครั้งหน้าจะเป็นปี 2024 ซึ่งเหรียญที่ขุดได้จะเป็น 3.125 เหรียญต่อบล็อก ถ้าคำนวณเวลากว่าเหรียญบิทคอยน์จะขุดพบจนหมดนั้นจะเป็นปี ค.ศ. 2140 นั่นเอง