เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา Jurrien Timmer ผู้อำนวยการฝ่าย Global Macro ของ Fidelity Investments ได้แสดงมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างบิทคอยน์กับทองคำผ่านโพสต์ชุดหนึ่งบนแพลตฟอร์ม X โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Fidelity Management & Research Company (FMR Co) และ Bloomberg เพื่อชี้ให้เห็นว่าทั้งสองสินทรัพย์มีพฤติกรรมผลัดกันเป็นผู้นำตามวัฏจักรของตลาด และขณะนี้ดูเหมือนว่าบิทคอยน์อาจกำลังจะเข้าสู่รอบใหม่ที่มีโอกาสนำหน้า

Sharpe Ratio เผยภาพการเปลี่ยนผ่านของผู้นำสินทรัพย์

Timmer ระบุว่า Sharpe Ratio ของบิทคอยน์ในขณะนี้อยู่ที่ -0.40 ขณะที่ทองคำอยู่ที่ 1.33 ซึ่งบ่งชี้ว่าทองคำให้ผลตอบแทนดีกว่าในช่วงที่ผ่านมา แต่จากรูปแบบในอดีตที่ทั้งสองสินทรัพย์มักสลับกันโดดเด่น จึงเป็นไปได้ว่ารอบนี้บิทคอยน์อาจเป็นฝ่ายขึ้นนำอีกครั้ง โดยเขาเสริมว่า “เราอาจกำลังอยู่ในจังหวะที่บิทคอยน์กำลังจะรับไม้ต่อจากทองคำ”

กราฟสะท้อนความจริง: บิทคอยน์ยังคงแข็งแรงในระยะยาว

กราฟที่เขาแนบมาด้วยแสดงให้เห็นว่าทองคำทำผลตอบแทนอยู่ที่ $22.51 ขณะที่บิทคอยน์อยู่ที่ $13.22 แต่มีการปรับค่าทองคำด้วยตัวคูณ 4 เท่าเพื่อสะท้อนระดับความผันผวนที่ต่ำกว่าของทองคำ เทียบกับบิทคอยน์ที่ใช้ค่าปกติ 1 เท่า ซึ่งช่วยให้เห็นภาพรวมว่าเมื่อวัดผลตอบแทนเทียบความเสี่ยงแล้ว บิทคอยน์ยังมีศักยภาพไม่น้อยหน้าทองคำเลย

ไม่ต้องเลือกระหว่างทองหรือบิทคอยน์—ถือทั้งคู่ก็ได้

Timmer ยังเสนอแนวทางที่น่าสนใจโดยระบุว่า “ทำไมต้องเลือก ถ้าเราถือทั้งสองได้” พร้อมแนะนำพอร์ตลงทุนเบื้องต้นที่มีทองคำ 4 ส่วนต่อบิทคอยน์ 1 ส่วน เพื่อสะท้อนความผันผวนที่ต่างกันระหว่างสินทรัพย์ทั้งสอง เขาย้ำว่า แม้บิทคอยน์จะผันผวนสูงกว่าทองคำหลายเท่า แต่ทั้งคู่กลับให้ Sharpe Ratio ที่ใกล้เคียงกันอย่างน่าทึ่ง

วิเคราะห์ผ่านเลนส์จิตวิทยานักลงทุน: ทองคำมั่นคง บิทคอยน์ร้อนแรง

นอกจากตัวเลข Timmer ยังพูดถึงพฤติกรรมนักลงทุน โดยเปรียบบิทคอยน์ว่าเหมือนกับ “Dr. Jekyll & Mr. Hyde” ที่มีบุคลิกสองด้านคือ เป็นได้ทั้งสินทรัพย์เก็งกำไรและที่เก็บมูลค่า โดยเฉพาะในช่วงที่ปริมาณเงินในระบบ (M2) และตลาดหุ้นกำลังขยายตัว ขณะที่ทองคำมีบทบาทชัดเจนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่นิ่งกว่า

บิทคอยน์ในยุคค่าเงินอ่อน: จากสินทรัพย์ชายขอบสู่บทบาทใหม่ในระบบการเงิน

ท้ายที่สุด Timmer กล่าวถึงบิทคอยน์ว่าเป็น “สิ่งประดิษฐ์แห่งยุคใหม่ที่กำลังพยายามจะเป็นเงินแข็งในยุคแห่งเงินอ่อน” เขามองว่าแม้บิทคอยน์จะมีความผันผวนสูง แต่ความสามารถในการป้องกันเงินเฟ้อและสถานะที่ไร้ตัวกลางกำลังทำให้มันได้รับการยอมรับในฐานะส่วนหนึ่งของระบบการเงินโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

Reference : Bitcoin News