MARA ใช้พลังงานลมขับเคลื่อนเหมือง Bitcoin ลดต้นทุนและช่วยสิ่งแวดล้อม

Marathon Digital Holdings (MARA) กำลังก้าวไปอีกขั้นในการทำเหมือง Bitcoin (BTC) ด้วยพลังงานสะอาด ล่าสุดบริษัทเปิดเผยว่าได้รวมพลังงานลมเข้ากับการขุด BTC ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์

ฟาร์มกังหันลม 240MW เสริมพลังให้เหมือง BTC

MARA ได้เข้าซื้อฟาร์มกังหันลมใน Hansford County โดยฟาร์มนี้มีศักยภาพการเชื่อมต่อ 240 เมกะวัตต์ (MW) และมีกำลังผลิตพลังงานลม 114 MW ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของ MARA เพิ่มขึ้นเป็น 136 MW

บริษัทเปิดเผยว่าจะใช้เครื่องขุด ASIC รุ่นเก่าที่นำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยลดต้นทุนอุปกรณ์และลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้การขุด BTC มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ลดต้นทุนการขุดด้วยพลังงานหมุนเวียน

การใช้พลังงานลมถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของ MARA เพราะไฟฟ้าจากลมไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง (zero marginal cost) ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ

Fred Thiel ประธานและซีอีโอของ MARA กล่าวว่า

“การเข้าซื้อสินทรัพย์พลังงานหมุนเวียนนี้ทำให้ MARA มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้า 136 MW ซึ่งช่วยให้เราควบคุมทั้งกระบวนการผลิตพลังงานและการขุด Bitcoin ได้ดีขึ้น”

“การใช้พลังงานลมช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องขุด ASIC และลดต้นทุนการดำเนินงาน ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายของต้นทุนการขุดที่แทบเป็นศูนย์”

MARA เปลี่ยนจาก “Asset-Light” สู่ “Asset-Heavy”

ก่อนหน้านี้ MARA ใช้โมเดลธุรกิจแบบ Asset-Light ซึ่งพึ่งพาบริการจากบุคคลที่สามเป็นหลัก แต่การเข้าซื้อฟาร์มลมครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทกำลังเปลี่ยนไปใช้โมเดล Asset-Heavy ที่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของตัวเอง

แนวทางใหม่นี้ช่วยให้ MARA ควบคุมต้นทุนด้านพลังงานได้ดีขึ้น เพราะพลังงานหมุนเวียนมีราคาคงที่ในระยะยาว ต่างจากไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีความผันผวนสูง

พลังงานลม: เทรนด์ใหม่ของเหมือง BTC

นอกจาก MARA แล้ว ยังมีบริษัทขุด BTC รายอื่นที่นำพลังงานลมมาใช้ เช่น

Cleanspark, Inc. บริษัทขุดคริปโตจากเนวาดา ที่ใช้พลังงานหมุนเวียนหลายประเภท รวมถึงพลังงานลม
Iris Energy Ltd. บริษัทเหมือง BTC จากออสเตรเลียที่ดำเนินงานในแคนาดาและเท็กซัส โดยใช้พลังงานหมุนเวียน 100%