แผนการของ Elon Musk ที่จะนำบล็อกเชนมาปรับใช้ในหน่วยงานรัฐบาล

รายงานจาก Bloomberg เปิดเผยว่า Elon Musk และ Department of Government Efficiency (DOGE) ที่เขานำอยู่ กำลังพิจารณาการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อพัฒนาระบบของรัฐบาลกลางให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยมุ่งหวังที่จะเพิ่มความโปร่งใสในการใช้จ่ายของรัฐบาลและปรับปรุงระบบการจ่ายเงินต่างๆ

DOGE เล็งใช้บล็อกเชนในหลายด้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

แหล่งข่าวระบุว่า DOGE กำลังประเมินการนำบล็อกเชนมาใช้ในหลายด้าน เช่น ความโปร่งใสในการใช้จ่ายของรัฐบาล การจัดการอาคาร และระบบการชำระเงิน แม้ว่าการหารือยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่มีรายงานว่า DOGE ได้มีการติดต่อกับผู้ให้บริการบล็อกเชนหลายรายเพื่อประเมินเทคโนโลยีที่พวกเขานำเสนอ

บทบาทของ Musk ในการเป็นหัวหน้าของ DOGE สอดคล้องกับเป้าหมายที่เขาต้องการทำให้ระบบราชการมีความคล่องตัวมากขึ้นและลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง โดยหน่วยงานใหม่ที่ก่อตั้งขึ้นนี้จะทำงานเป็นความลับสูง และการติดต่อสื่อสารภายในหน่วยงานใช้แอปพลิเคชัน Signal ที่มีการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย

ข้อกังวลทางจริยธรรมและการตอบรับจากสาธารณะ

กลุ่ม American Oversight ซึ่งเป็นทีมกฎหมายที่มีชื่อเสียง ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับ “ข้อกังวลด้านจริยธรรม” โดยเชื่อว่าการนำบล็อกเชนมาปรับใช้ในหน่วยงานรัฐบาลอาจมีผลกระทบด้านผลประโยชน์ทับซ้อนของ Musk ขณะที่ผู้คนจำนวนมากในโซเชียลมีเดียและฟอรัมต่างๆ ยกย่องความพยายามนี้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่กล้าหาญและมีวิสัยทัศน์

บล็อกเชนและการปรับปรุงการทำงานของรัฐบาล

แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยว่า บล็อกเชนเครือข่ายใด ที่ DOGE สนใจใช้งาน แต่ความสนใจในบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย สะท้อนถึงการสนทนาและการอภิปรายที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการนำบล็อกเชนมาใช้ในระบบราชการเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพในการจัดการ

เทคโนโลยีบล็อกเชน ช่วยให้การจัดการบันทึกของรัฐบาลโปร่งใสและไม่สามารถถูกปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในข้อมูลสาธารณะผ่านความถูกต้องที่สามารถตรวจสอบได้ ระบบนี้ยังสามารถเสริมความปลอดภัยและลดช่องโหว่ต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทุจริตได้อีกด้วย

ความท้าทายในการนำบล็อกเชนมาปรับใช้

อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในระบบราชการอาจไม่ง่ายเท่าที่คาดหวัง เนื่องจากการผสมผสานเทคโนโลยีนี้เข้ากับระบบที่มีอยู่เดิมอาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก นอกจากนี้ยังต้องการการฝึกอบรมที่กว้างขวางและการอัปเดตโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าและลดประสิทธิภาพในการปรับปรุงระบบให้ทันสมัย

การปรับใช้บล็อกเชนในรัฐบาลจึงยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน แม้จะมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการทำงานของรัฐบาลไปในทิศทางที่ดีขึ้น