ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา Bitcoin จำนวนมากถูกถือครองโดยแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ บริษัทเอกชนและรัฐ รัฐบาล กองทุน ETF และโครงการโทเคนอนุพันธ์อย่าง WBTC
ตามข้อมูลของ Timechainindex.com ณ วันที่ 22 กันยายน 2024 Coinbase เป็นผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุด โดยถือครอง 1,051,650.41 BTC มูลค่า 66.4 พันล้านดอลลาร์ อยู่ใน 145,491 Address
ขณะที่ Binance อยู่อันดับสอง ถือครอง 765,072.92 BTC อยู่ใน 120,528 Address ส่วน Bitfinex ถือครอง 359,687.52 BTC ใน 2,161 Address
Blackrock อยู่ในอันดับสี่ ถือครอง 357,550.21 BTC ใน 760 Address แต่ทั้งหมดนี้เก็บไว้ภายใต้การดูแลของ Coinbase Custody
ในขณะที่ Microstrategy ถือครอง 252,220 BTC แต่ข้อมูล Onchain ระบุว่า 213,996.14 BTC อยู่ใน 501 Address
Kraken อยู่อันดับที่หก ถือครอง 237,900.9 BTC และ Grayscale’s GBTC ถือครอง 220,439.82 BTC เก็บไว้กับ Coinbase Custody
รัฐบาลสหรัฐฯ อยู่อันดับแปด ถือครอง 204,302.34 BTC ใน 125 Address กองทุน FBTC ของ Fidelity ถือครอง 178,191.25 BTC เก็บไว้ใน 562 Address สุดท้ายคือโครงการ WBTC ซึ่งถือ Bitcoin รองรับโทเคน ERC20 และมี 948 Address
สรุปการถือครอง Bitcoin โดยหน่วยงานใหญ่
ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนยังคงเป็นที่พึ่งหลักในการซื้อขายและเก็บรักษา Bitcoin การเปลี่ยนแปลงจากการถือครองโดยบุคคลไปสู่การรวมศูนย์มากขึ้นนี้ อาจส่งผลต่อสภาพคล่องและการเข้าถึง Bitcoin ในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อ ETF และสถาบันการเงินเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
เหตุผลที่การถือ Bitcoin ด้วยตัวเองยังสำคัญ
แม้ว่าแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนจะถือครอง Bitcoin ของลูกค้า แต่ก็เป็นผู้ควบคุมสินทรัพย์ทั้งหมด หากเกิดการแฮ็กขึ้น ลูกค้าก็เสี่ยงที่จะสูญเสียสินทรัพย์ทั้งหมด ดังนั้นการใช้กระเป๋าเงินแบบ Non-custodial ที่ให้ผู้ใช้ควบคุมเงินได้เอง จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าในการเก็บ Bitcoin
Reference : Bitcoin News