บริษัท Circle ผู้ออก Stablecoin และผู้ให้บริการฟินเทคชื่อดัง ประกาศจับมือกับ Sony Block Solutions Labs เพื่อขยายการใช้งาน USDC บนบล็อกเชนเลเยอร์ 2 ที่ชื่อว่า Soneium
เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา Circle ได้ประกาศถึงความร่วมมือนี้ โดยมีเป้าหมายในการนำ Bridged USDC Standard มาใช้งาน และผลักดันให้ USDC เป็นหนึ่งในโทเค็นหลักสำหรับการแลกเปลี่ยนมูลค่าบน Soneium
“นี่ถือเป็นก้าวสำคัญในการเปิดศักราชใหม่สำหรับความสร้างสรรค์ในโลก Web3” Circle ระบุ
Soneium เป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 2 ที่พัฒนาขึ้นบนเครือข่าย Ethereum โดย Sony Block Solutions Labs และเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2024 บริษัทนี้เป็นการร่วมทุนระหว่าง Sony Group Corporation และ Startale Labs ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ผ่านเทคโนโลยี Distributed Ledger
Bridged USDC Standard เป็นกระบวนการนำ USDC รูปแบบหนึ่งมาใช้งานบนบล็อกเชนที่รองรับ Ethereum Virtual Machine (EVM) โดยทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ USDC ที่มีอยู่บน Ethereum ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาที่สร้างแอปพลิเคชันบนเชนเลเยอร์ 2 สามารถเข้าถึงการชำระเงินในดอลลาร์ดิจิทัลได้
Jun Watanabe ประธานของ Sony Block Solutions Labs กล่าวว่า “ความร่วมมือนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่เชื่อมโยงกันและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ในขณะที่ Jeremy Allaire ซีอีโอของ Circle กล่าวเสริมว่า “ความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Circle ในการเร่งการใช้งาน Stablecoin และเทคโนโลยีบล็อกเชนของเรา พร้อมทั้งช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถเติบโตไปพร้อมกับประสบการณ์ Web3 ที่ปลอดภัยและใช้งานง่าย”
ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน Samsung Next ซึ่งเป็นฝ่ายการลงทุนของ Samsung ก็ได้ประกาศการลงทุนเชิงกลยุทธ์ใน Startale Labs ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเชนเลเยอร์ 2 ของ Sony เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ Soneium ยังได้จับมือกับพาร์ทเนอร์รายอื่น ๆ อย่าง Astar, Alchemy, Chainlink, Optimism และ The Graph
ปัจจุบัน Circle เป็นผู้ให้บริการ Stablecoin รายใหญ่อันดับสองของโลก โดยมีการหมุนเวียนของ USDC อยู่ที่ 35.7 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 21% ปริมาณ USDC เพิ่มขึ้น 47% ตั้งแต่ต้นปี แต่ยังคงลดลง 36% จากจุดสูงสุดที่ 56 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน 2022
Dante Disparte หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และนโยบายระดับโลกของ Circle ได้กล่าวกับ Cointelegraph ว่า “เรามั่นใจว่า Stablecoin จะถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในฐานะเงินสกุลหลักของยุคอินเทอร์เน็ต”
Reference : Cointelegraph