กลุ่มสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ นำโดย Dick Durbin และคณะ ได้ออกมาขอให้ผู้ให้บริการตู้ ATM คริปโตเจ้าใหญ่ในสหรัฐฯ 10 ราย เร่งแก้ปัญหาการฉ้อโกงที่ส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุโดยด่วน

ในแถลงการณ์วันที่ 12 กันยายน วุฒิสมาชิกทั้ง 7 คน รวมถึง Elizabeth Warren ได้อ้างอิงข้อมูลจาก Federal Trade Commission (FTC) ว่าการฉ้อโกงผ่านตู้ Bitcoin ATM (BTM) ในช่วงครึ่งปีแรกสูงถึง 65 ล้านดอลลาร์ โดยชี้ว่า “ผู้สูงอายุวัย 60 ปีขึ้นไปมีโอกาสถูกหลอกผ่าน BTM มากกว่าคนหนุ่มสาวถึงสามเท่า”

จดหมายลงวันที่ 11 กันยายนได้ถูกส่งถึง CEO หรือผู้บริหารระดับสูงของบริษัท Bitcoin Depot, CoinFlip, RockItCoin, Bitstop, Coinhub, Unbank, Athena Bitcoin, Byte Federal, Cash2Bitcoin และ Margo โดยจดหมายดังกล่าวเรียกร้องให้ทุกบริษัท “ลงมือทันที” เพื่อแก้ปัญหาการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุอย่างแพร่หลายผ่านตู้ ATM ของพวกเขา

ในจดหมายนี้ วุฒิสมาชิกยังได้อ้างถึงรายงานจาก Illinois Times ซึ่งเจ้าของธุรกิจรายหนึ่งตัดสินใจถอดตู้ ATM ของ Coinhub ออกไป เพราะมีเพียงเหยื่อของการฉ้อโกงเท่านั้นที่มาใช้งาน รวมถึงรายงานจาก New York Times ที่เผยถึงกรณีหลอกลวงผู้สูงอายุโดยใช้ตู้ ATM คริปโต

วุฒิสมาชิกขอให้ทุกบริษัทตอบกลับภายในวันที่ 4 ตุลาคม ถึงมาตรการต่างๆ ในการป้องกันการฉ้อโกง เช่น มีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงหรือไม่ มีการกำหนดวงเงินในการทำธุรกรรมและการฝากเงินหรือไม่ รวมถึงการคุ้มครองผู้ใช้จากการถูกฉ้อโกงหรือไม่

เมื่อต้นเดือนนี้ FTC รายงานว่าการฉ้อโกงผ่านตู้ ATM คริปโตเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าตั้งแต่ปี 2020 จาก 12 ล้านดอลลาร์เป็น 144 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ FBI เผยว่าในปี 2023 มีการสูญเสียจากการฉ้อโกงคริปโตสูงถึง 5.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 45% จากปี 2022

FTC ยังชี้ว่า ค่าเสียหายเฉลี่ยจากการฉ้อโกงผ่านตู้ BTM ในครึ่งปีแรกของปีนี้อยู่ที่ 10,000 ดอลลาร์ และสองในสามของผู้เสียหายเป็นผู้สูงอายุ

โฆษกของ Bitcoin Depot หนึ่งในบริษัทที่ได้รับจดหมาย ระบุว่าบริษัทได้ติดตั้งระบบเตือนภัยการหลอกลวงบนตู้ BTM แล้ว โดยมีข้อความแจ้งเตือนบนหน้าจอเพื่อป้องกันลูกค้าถูกหลอกลวง

Reference : Cointelegraph