เทคโนโลยีควอนตัมคืออะไร?
เทคโนโลยีควอนตัมเกิดจาก กลศาสตร์ควอนตัม (Quantum Mechanics) วิชาฟิสิกส์ที่อธิบายพลังงานและสสารระดับเล็กสุด ตั้งแต่เมื่อกว่า 100 ปีก่อน
ปัจจุบันถูกนำไปใช้งานแล้วในหลายอย่าง เช่น ทรานซิสเตอร์ (หัวใจของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง) เลเซอร์เครื่อง MRI คอมพิวเตอร์ควอนตัม
คอมพิวเตอร์ควอนตัมมีศักยภาพประมวลผลข้อมูลซับซ้อน เร็วกว่าเครื่องปัจจุบันนับแสนเท่า เช่น ชิปควอนตัม “Willow” ของ Google ที่ช่วยลดเวลาคำนวณมหาศาล
คอมพิวเตอร์ควอนตัม: โอกาสยิ่งใหญ่ มากกว่าแค่ความเสี่ยง
หลายคนมักมองว่าเทคโนโลยีควอนตัมเป็นภัยคุกคามบิทคอยน์ เพราะอาจถอดรหัส ECDSA (Elliptic Curve Digital Signature Algorithm) ได้เร็วขึ้น แต่ถ้ามองในมุมบวก ควอนตัมคือ “ตัวเร่ง” ที่จะทำให้ระบบการเข้ารหัสแข็งแรงขึ้น ชุมชนบิทคอยน์จะมีแรงบันดาลใจพัฒนา มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ การเตรียมระบบต้านควอนตัม (Quantum-resistant protocols) จะทำให้บิทคอยน์ยืดหยุ่นต่ออนาคต
นักพัฒนากำลังพัฒนาแนวทางใหม่ เช่น
QRAMP (Quantum-Resistant Asset Mapping Protocol) ที่จะทำให้บิทคอยน์เชื่อมต่อบล็อกเชนอื่นโดยยังคงความปลอดภัย
ทำไมเรายังไม่ต้องกังวลตอนนี้?
แม้ในทางทฤษฎี ควอนตัมสามารถถอดรหัส public key แต่ในความจริง คอมพิวเตอร์ควอนตัมยังมี Qubit ไม่ถึง 1,000 นักวิจัยคาดว่าต้องใช้ 13–300 ล้าน Qubits จึงจะถอดรหัสบิทคอยน์ได้ กว่าจะไปถึงจุดนั้น อาจใช้เวลา หลายสิบปี ผู้เชี่ยวชาญ เช่น Michael Saylor จึงเชื่อว่าตอนนี้ยังไม่มีภัยเร่งด่วน
ข้อดีอีกด้าน: เปิดโอกาสให้แก้ปัญหาบิทคอยน์หาย
ทุกวันนี้ประมาณ 2.3–3.7 ล้านบิทคอยน์ หายไปเพราะเจ้าของทำ private key หาย หากเทคโนโลยีควอนตัมก้าวหน้าเพียงพอ อาจช่วยกู้คืนเหรียญเหล่านี้ ได้ในอนาคต (แต่ต้องมีข้อพิจารณาทางจริยธรรมว่าควรทำหรือไม่)
เราทำอะไรได้บ้างเพื่อเตรียมพร้อม?
แม้จะยังห่างไกล แต่เราสามารถป้องกันง่ายๆ ได้ล่วงหน้า เช่น อย่าใช้ Address ซ้ำ ใช้ Wallet ที่รองรับ Taproot และ SegWit ตรวจสอบ Address ทุกครั้งก่อนโอน เลือกแพลตฟอร์มที่ช่วยเปลี่ยน Address อัตโนมัติ
วิธีเหล่านี้ไม่เพียงช่วยต้านภัยควอนตัม แต่ยังช่วยป้องกันการฟิชชิงหรือ Address poisoning
มุมมองบวกต่ออนาคต
แทนที่จะมองว่าควอนตัมเป็นศัตรู ลองมองว่ามันคือ “เครื่องมือใหม่” ที่ผลักให้วงการคริปโทพัฒนาไปอีกขั้นเช่น เพิ่มความปลอดภัย ยกระดับมาตรฐานเข้ารหัส ขยายการใช้งานข้ามบล็อกเชน สร้างโอกาสทางนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน
Reference: Cointelegraph