Johann Kerbrat รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของ Robinhood Crypto กล่าวในการประชุม Consensus 2025 ที่โตรอนโตว่า การโทเค็นสินทรัพย์ (Tokenization) สามารถเพิ่มการเข้าถึงสินทรัพย์ที่ปกติจำกัดไว้เฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ โดยเฉพาะในสินทรัพย์ที่มีราคาสูง เช่น อสังหาริมทรัพย์และหุ้นเอกชน

Kerbrat ระบุว่า เพียง 10% ของประชากรสหรัฐฯ เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นเอกชนได้ในปัจจุบัน เนื่องจากต้องมีสถานะเป็นนักลงทุนที่ได้รับการรับรอง (Accredited Investor) เขาชี้ให้เห็นว่าการโทเค็นสินทรัพย์สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพตลาดนี้ได้

“มีคนกี่คนที่สามารถซื้อบ้านหรืออพาร์ทเมนต์ในนิวยอร์กได้?” Kerbrat กล่าว “แต่ถ้าเราสามารถแบ่งอสังหาริมทรัพย์ออกเป็นหน่วยย่อย (Fractionalization) ผ่านการโทเค็น ก็จะทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น”

Robinhood และการสำรวจตลาดโทเค็นสินทรัพย์จริง (RWA)

Robinhood เป็นหนึ่งในบริษัทการลงทุนไม่กี่แห่งที่เริ่มสำรวจตลาด การโทเค็นสินทรัพย์จริง (Real-World Asset Tokenization หรือ RWA) ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทอื่นๆ ที่เข้าร่วมในกระแสนี้ ได้แก่ BlackRock, Franklin Templeton, Apollo และ VanEck

การโทเค็นสินทรัพย์จริงมักถูกมองว่าเป็นวิธีการเพิ่มการเข้าถึงทางการเงิน โดยปัจจุบันตลาด RWA ส่วนใหญ่ยังคงมุ่งเน้นไปที่ตลาดสินเชื่อเอกชนและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

ตามข้อมูลจาก RWA.xyz เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ตลาดสินทรัพย์จริงบนบล็อกเชนมีมูลค่ารวม 22.5 พันล้านดอลลาร์ โดยมีผู้ถือครองสินทรัพย์เพียง 101,457 ราย เฉลี่ยแล้วผู้ถือครองแต่ละรายมีสินทรัพย์มูลค่า 221,867 ดอลลาร์ ในรูปแบบโทเค็น

Stablecoin จะกลายเป็นสินทรัพย์เฉพาะกลุ่มมากขึ้น

Kerbrat ยังได้กล่าวถึง Stablecoin ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในกรณีการใช้งานที่สำคัญในวงการคริปโต เขาคาดการณ์ว่าในอนาคต เราจะเห็น Stablecoin มากกว่า 100 รูปแบบ

เขาอธิบายว่า Stablecoin จะไม่เพียงแค่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น แต่จะมี Stablecoin ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำธุรกรรมในตลาดเฉพาะกลุ่ม เช่น การโอนเงินจากสหรัฐฯ ไปยังสิงคโปร์ อาจมี Stablecoin เฉพาะสำหรับการทำธุรกรรมข้ามประเทศ

ตามข้อมูลจาก DefiLlama ปัจจุบัน Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 87.1% ของมูลค่ารวม 243.3 พันล้านดอลลาร์ โดย USDT ของ Tether ครองส่วนแบ่งสูงสุดด้วยมูลค่า 211.8 พันล้านดอลลาร์

กระแสความต้องการ Stablecoin ที่ไม่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ

ในเดือนเมษายน Dea Markova หัวหน้าฝ่ายนโยบายของ Fireblocks กล่าวว่าความต้องการ Stablecoin ที่ไม่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีการคลังของอิตาลี เตือนว่า Stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ อาจเป็นความเสี่ยงที่มากกว่าภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

Reference : Cointelegraph