การระบุว่าตลาดอยู่ในช่วงกระทิงหรือหมี สามารถพิจารณาได้จากหลายปัจจัยหลัก เริ่มจากการเคลื่อนไหวของราคา หากราคาของสินทรัพย์คริปโตมีการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นและข่าวดีที่เข้ามาเป็นแรงหนุน เช่น การเปิดตัว Bitcoin ETF หรือการเข้าซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลจากสถาบันการเงินใหญ่ ๆ สถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นสัญญาณชัดเจนของตลาดกระทิง
ในทางตรงกันข้าม หากราคาของสินทรัพย์คริปโตตกลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีการดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่ไม่สามารถกลับขึ้นไปแตะจุดสูงสุดเดิมได้ และปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับข่าวร้าย เช่น การล่มสลายของแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ หรือการประกาศกฎระเบียบที่เข้มงวดจากหน่วยงานกำกับ ตลาดในลักษณะนี้มักจะถูกมองว่าเป็นตลาดหมี
หนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินอารมณ์ตลาดคือ ดัชนีความกลัวและความโลภ (Fear & Greed Index) ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น โซเชียลมีเดีย การค้นหาใน Google และความผันผวนของราคา หากดัชนีแสดงระดับ ความกลัว (Fear) สูง
หมายความว่านักลงทุนกำลังระมัดระวังและมีแนวโน้มที่จะขายสินทรัพย์ทิ้ง ในขณะที่หากดัชนีแสดงระดับ ความโลภ (Greed) สูง แสดงถึงความมั่นใจและความคาดหวังว่าราคาจะพุ่งขึ้นต่อ
อีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์คือ อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค (Technical Indicators) เช่น Moving Average (MA) และ Relative Strength Index (RSI)
- หากราคาสินทรัพย์อยู่เหนือเส้น MA 200 วัน เป็นสัญญาณว่าตลาดยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) แต่หากราคาต่ำกว่าเส้น MA 200 วัน นั่นอาจบ่งบอกถึงตลาดหมี
- RSI ช่วยประเมินว่าตลาดนั้นกำลังอยู่ในภาวะ Overbought หรือ Oversold หาก RSI สูงกว่า 70 อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังเข้าสู่ช่วง Overbought และอาจเกิดการปรับฐาน ในขณะที่ RSI ต่ำกว่า 30 มักบ่งบอกถึงภาวะ Oversold ซึ่งอาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ
Reference : Cointelegraph