โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าคณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัล (President’s Working Group on Digital Assets) ได้รับคำสั่งให้เพิ่มคริปโต XRP, Solana (SOL) และ Cardano (ADA) เข้าในคลังสำรองยุทธศาสตร์คริปโต (Crypto Strategic Reserve)

ต่อมาทรัมป์ยังได้เพิ่ม Bitcoin (BTC) และ Ether (ETH) เข้าในรายชื่อสินทรัพย์ที่ต้องมีในคลังสำรอง โดยระบุว่าสินทรัพย์ทั้งสองจะเป็น “หัวใจของคลังสำรอง” นี้

นโยบายคลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติของทรัมป์

ก่อนหน้านี้ ในงาน Bitcoin 2024 Conference ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ทรัมป์ได้สัญญาว่าจะจัดตั้ง “คลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ” โดยกล่าวว่า

“หากผมได้รับเลือก นโยบายของรัฐบาลผมคือการเก็บรักษา Bitcoin ทั้งหมดที่รัฐบาลมีหรือได้มาในอนาคตไว้ 100% เราจะเก็บรักษาไว้ทั้งหมด”

ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า

“นี่จะเป็นแกนหลักของคลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ”

อย่างไรก็ตาม ภาษาที่ใช้ในคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order) เมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนไปใช้คำว่า “คลังสำรองสินทรัพย์ดิจิทัล” แทน ซึ่งทำให้ กลุ่ม Bitcoin Maximalists ไม่พอใจ เพราะมองว่าเป็นการเปิดทางให้กับ คริปโตอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Bitcoin

รายละเอียดของคำสั่งฝ่ายบริหารเกี่ยวกับคริปโต

คำสั่งฝ่ายบริหารที่ทรัมป์ลงนามนั้นสั่งให้คณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งคลังสำรองคริปโตระดับชาติ และสำรวจกรอบการกำกับดูแล Stablecoin โดยมีจุดที่น่าสนใจคือ

  • สั่งห้ามวิจัยและพัฒนาเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ในสหรัฐฯ อย่างชัดเจน
  • การเปลี่ยนจากการจัดเก็บ Bitcoin เพียงอย่างเดียวเป็นคลังสำรองที่มีหลายคริปโต ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุน Bitcoin ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

Pierre Rochard รองประธานฝ่ายวิจัยของบริษัทเหมืองคริปโต Riot Platforms ได้แสดงความไม่พอใจต่อ ภาษาที่ใช้ในคำสั่งนี้ โดยมองว่าเป็นการเบี่ยงเบนจากสัญญาเดิมของทรัมป์ที่จะมุ่งเน้น Bitcoin เป็นหลัก

การประชุมสุดยอดด้านคริปโตครั้งแรกของทำเนียบขาว

ทรัมป์ยังเตรียมจัดการประชุมสุดยอดด้านคริปโตครั้งแรกของทำเนียบขาว ในวันที่ 7 มีนาคมนี้ โดยจะเชิญ ผู้บริหารในอุตสาหกรรมคริปโต และ คณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายการกำกับดูแลคริปโตในสหรัฐฯ

Walker ผู้ดำเนินรายการ THE Bitcoin Podcast ยังได้โพสต์บน X (Twitter เดิม) ว่า

“ใครคิดว่าทรัมป์ควรทำให้คลังสำรองคริปโตของชาติเป็น Bitcoin เพียงอย่างเดียว ยกมือขึ้น”

ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความแตกแยกในชุมชนคริปโต ระหว่างกลุ่มที่สนับสนุน Bitcoin เป็นสินทรัพย์หลัก และกลุ่มที่ต้องการให้มีสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายในคลังสำรองของชาติ

Reference : Cointelegraph