บล็อกเชนจะครองภาคการเงินในตะวันออกกลางและแอฟริกา

Reece Merrick กรรมการผู้จัดการของ Ripple ในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา เปิดเผยถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลในการชำระเงิน โดยอ้างอิงจากการสำรวจ Ripple 2024 New Value

ซึ่งได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าร่วมจากผู้นำของสถาบันการเงินและบริษัทต่างๆ จากทั่วโลกเกือบ 2,000 คน รวมทั้งกว่า 200 คนจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย และตุรกี

จากการสำรวจ พบว่าแอปพลิเคชันที่มีการอ้างถึงบ่อยที่สุดสำหรับเทคโนโลยีบล็อกเชนในภูมิภาค MENA คือการที่ “ลูกค้าสามารถชำระเงินด้วยสกุลเงินที่ใช้บล็อกเชน” (52%) รองลงมาคือการ “ยอมรับการชำระเงินในรูปแบบของสกุลเงินที่ใช้บล็อกเชน” (47%) ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญสำหรับผู้นำในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ยังมีความสนใจที่เพิ่มขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดย “การซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น” (42%) เช่น หลักทรัพย์โทเคนและสินทรัพย์ในโลกจริง ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น

การชำระเงินข้ามประเทศด้วยบล็อกเชนก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ

Merrick ยังเน้นถึงแนวโน้มทั่วโลกที่ต้องการการทำธุรกรรมระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการสำรวจพบว่า “การทำการชำระเงินข้ามประเทศด้วยสกุลเงินที่ใช้บล็อกเชน” (38%) ยังคงเป็นเป้าหมายหลักของหลายสถาบันการเงิน

การเติบโตของบล็อกเชนในตะวันออกกลางและแอฟริกา

Merrick ได้กล่าวถึงการสนับสนุนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในการเป็นผู้นำด้านสกุลเงินดิจิทัล โดยกล่าวถึงการออกกฎระเบียบที่สนับสนุน, การพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน, และการเติบโตของสเตเบิลคอยน์ ซึ่งทำให้ UAE เป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับโลก นอกจากนี้ยังเน้นถึงการเติบโตของสินทรัพย์โทเคน ที่กำลังกลายเป็นสิ่งสำคัญในภูมิภาคนี้

Merrick คาดการณ์ว่า ภายในปี 2025 บล็อกเชนจะมีการบูรณาการอย่างลึกซึ้งในระบบธนาคารของภูมิภาค MENA ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงภาคการเงินในซาอุดีอาระเบีย, บาห์เรน, กาตาร์ และโมร็อกโก

Reference : Bitcoin News