Powerledger บริษัทเทคโนโลยีพลังงานจากออสเตรเลีย ประกาศขยายธุรกิจเข้าสู่ระบบนิเวศของ Solana โดยชี้ว่าบริษัทมีค่านิยมร่วมกับเครือข่ายบล็อกเชนนี้ ท่ามกลางความสนใจที่เพิ่มขึ้นในแนวคิด Regenerative Finance (ReFi)

“ทั้ง Powerledger และ Solana มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในเรื่องนวัตกรรม ความยั่งยืน และความโปร่งใส ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโลกเริ่มเปลี่ยนไปสู่ ReFi และความยั่งยืน” โฆษกของ Powerledger กล่าวกับเว็บไซต์ Cointelegraph เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา

ReFi ตั้งเป้าสร้างระบบเศรษฐกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ผลตอบแทนทางการเงิน แต่ยังคำนึงถึงการฟื้นฟูและพัฒนาสภาพแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่ามูลค่าตลาดรวมของ ReFi ณ เวลาที่รายงานอยู่ที่ 110.57 ล้านดอลลาร์

โฆษกของ Powerledger ยังเสริมว่าการผสานเข้ากับ Solana จะช่วยขยายการเล่าเรื่องในเรื่องพลังงานสะอาดและความยั่งยืนในวงการบล็อกเชน และเป็นก้าวสำคัญในการผสานนวัตกรรมทางการเงินเข้ากับการดูแลโลก

John Bulich ผู้ร่วมก่อตั้ง Powerledger กล่าวเสริมว่า การขยายธุรกิจเข้าสู่ Solana mainnet นอกจากจะช่วยผลักดันเรื่องราวของพลังงานสะอาดในวงการบล็อกเชนแล้ว ยังย้ำให้เห็นว่าความยั่งยืนเป็นเป้าหมายร่วมที่ข้ามผ่านขอบเขตของระบบนิเวศต่าง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีคริปโตมีศักยภาพที่จะเป็นพลังแห่งความดีได้

Powerledger จะผสานผลิตภัณฑ์เข้าสู่ Solana mainnet และยุติการใช้งานบล็อกเชน Solana Virtual Machine (SVM) โดยบริษัทได้ใช้งานบล็อกเชน SVM มากว่า 12 เดือนและเรียนรู้วิธีใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างดีเยี่ยม

“การขยายเข้าสู่ Solana mainnet เป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบบนแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและใช้งานร่วมกันได้” Powerledger กล่าว

โทเค็น POWR ของ Powerledger จะสามารถใช้งานในระบบนิเวศของ Solana ได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงเป็นโทเค็น ERC-20 ข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า ณ เวลาที่รายงาน โทเค็น POWR ซื้อขายอยู่ที่ราคา $0.22 เพิ่มขึ้น 16.75% นับตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน

Powerledger มีโซลูชันด้านพลังงานที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ซึ่งครอบคลุมการซื้อขายพลังงานแบบ peer-to-peer โรงไฟฟ้าเสมือน และการซื้อขายคาร์บอนเครดิตและใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (REC)

Reference : Cointelegraph