ทำความรู้จักเหรียญมีม (Meme coin)
เหรียญมีมคือคำที่มีไว้สำหรับเรียกคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเค็น ที่เป็นกระแสขึ้นมาเพราะรูปสัญลักษณ์ของเหรียญที่มีความน่ารัก ตลก หรือมีความล้อเลียน ซึ่งผู้ปลุกกระแสส่วนใหญ่จะเป็นนักเทรดออนไลน์ ผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น Dogecoin, Shiba Inu หรือพวกเหรียญที่เน้นความบันเทิงมากกว่าการใช้ประโยชน์จริง ก็อยู่ในประเภทของเหรียญมีม
เหรียญมีมอาจดูตลกและเป็นกระแสนิยม แต่ส่วนใหญ่เหรียญพวกนี้มักมีคุณค่าจริงๆน้อยมากจนถึงไม่มีเลย เมื่อเราซื้อหรือเทรดเหรียญมีมเราต้องคำนึงไว้เสมอว่าเหรียญพวกนี้มีความเสี่ยงสูง การลงทุนโดยไม่กำหนดเงินทุนให้ดี อาจทำให้เราเสียเงินจำนวนมากได้
[Dogecoin (DOGE) คืออะไร มีความเป็นมาอย่างไร ?]
Meme coin vs Bitcoin
ตอนนี้เหรียญมีมในตลาดมีจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่นั้นจะไร้ค่า จะมีเพียงแค่เหรียญดังๆอย่าง Dogecoin, Shiba Inu, Dogelon Mars และ Baby Dogecoin เท่านั้นที่อยู่ในหมวดเหรียญมีม แต่มี volume การเทรดในแต่ละวันเกิน 1 ล้านดอลลาร์ ทำให้เหรียญมีมถูกพิจารณาว่าเป็นคริปโทเคอร์เรนซีที่ความเสี่ยงสูง และมีความผันผวนรุนแรง
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้า สกุลเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์มอบคุณค่าให้กับผู้ใช้งานด้วยการทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมบนเครือข่ายบิตคอยน์ด้วยความปลอดภัยและมั่นคง และมอบเงินส่วนบุคคลที่ไม่มีใครมาขโมยหรือใช้อำนาจแย่งไปจากเราได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้โดยอัตโนมัติ ไม่มีองค์กรหรือบริษัทใดๆทำงานอยู่เบื้องหลัง มีเพียงนักขุดทั่วโลกที่คอยใช้กำลังประมวลของตนทำให้เครือข่ายบิตคอยน์ทำงานอย่างที่เป็นในปัจจุบัน
แต่สำหรับนักเทรดทั่วไปที่สนใจเพียงแค่การทำกำไรจากความผันผวนของราคา ไม่ได้สนใจในการใช้งานบิตคอยน์ อาจจะมองว่าเหรียญมีมคือโอกาสที่ดีในการเทรด เล่นแบบเน้นเข้าไวออกไว เพราะราคาเหรียญมีมพวกนี้เวลาเป็นกระแสขึ้นมา ราคาจะบวกขึ้นสูงมาก แต่กลับกันพอกระแสหมด ราคาก็ร่วงลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
และยังมีผู้ที่ชื่นชอบเก็บเหรียญมีม เก็บตั้งแต่ราคายังต่ำ เก็บหลายๆเหรียญ แล้วไปปั่นกระแสบนโลกอินเทอร์เน็ต รอให้ราคาเหรียญสูงขึ้นแล้วเทขายทำกำไร ซึ่งการปั่นกระแสให้ราคาขึ้นไม่จำเป็นต้องเป็นเหรียญมีม โปรเจคเหรียญออกใหม่ โปรเจค DeFi ก็มักมีคนนำมาปั่นกระแสกัน
ข้อดีข้อเสียของเหรียญมีม
ข้อดี
– เหรียญตลก น่ารัก น่าเก็บไว้ประดับพอร์ต
– ความผันผวนของราคาสูง สามารทำกำไร(หรือขาดทุน)ได้ในช่วงสั้นๆ
– บางเหรียญเกิด network effect จนทำให้ผู้คนเชื่อมั่นในเหรียญนั้นไปแล้ว เช่น Dogecoin
[“Network Effect” เหตุผลที่ไม่มีเหรียญใดมาแทนบิตคอยน์ได้ ]
ข้อเสีย
– ความเสี่ยงสูง
– มีการปั่นกระแสแล้วเทขายเกิดขึ้นบ่อยๆ
– ไม่ได้สร้างประโยชน์ที่ชัดเจนให้กับผู้ใช้งาน
Reference : investopedia