บิตคอยน์คือทองคำดิจิทัล ?
เคยได้ยินคนพูดกันไหมว่าบิตคอยน์ถูกสร้างมาเพื่อเป็นทองคำในรูปแบบดิจิทัล ผู้อ่านหลายท่านคงจะรู้จักคุณสมบัติของทองเป็นอย่างดี อย่างเช่นมีความบริสุทธิ์สูง สามารถหลอมใหม่เพื่อทำให้บริสุทธิ์ได้เสมอ มีความคงทน ทองไม่ขึ้นสนิมและไม่ผุกร่อน มีกระบวนการได้มาที่ยาก การจะได้ทองคำมาแต่ละบาทต้องขุดและร่อนทองมาโดยใช้ต้นทุนที่สูง จึงทำให้ทองมีมูลค่าในตัวของมันเอง วันนี้เราจะมาพูดบิตคอยน์ที่เปรียบเสมือนทองคำในรูปแบบดิจิทัล
1. มีกระบวนการได้มาที่ยากและต้องใช้ต้นทุน
การจะขุดบิตคอยน์ขึ้นมาได้ต้องใช้กำลังประมวลผลจากคอมพิวเตอร์ ซึ่งนำกำลังประมวลผลมาใช้ในการแก้สมการที่มีความซับซ้อนของระบบบิตคอยน์และได้เป็นบิตคอยน์ขึ้นมา และการจะได้บิตคอยน์ออกมาครั้งหนึ่ง ได้แค่ 6.25 เหรียญต่อ 10 นาทีเท่านั้น และจะลดลงไปอีกทุกๆ 4 ปี อ่านเรื่องการขุดบิตคอยน์ โดยปริมาณบิตคอยน์ก็มีจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ และมีอัตราการขุดพบคงที่ ที่ขุดพบทุก 10 นาที ซึ่งเป็นแบบนี้เพราะบิตคอยน์ได้ถูกวางโครงสร้างไว้ให้มีการปรับระดับการขุดพบไว้ให้คงที่โดยการปรับระดับความยากให้เหมาะสมกับกำลังขุดในขณะนั้นถ้ากำลังขุดมีมากก็จะขุดเจอยาก เรียกว่า ความยากในการขุด หรือ difficulty ค่าความยากมีประโยชน์ในการเสริมความคงทนในเชิงเศรษศาสตร์ ทองเมื่อมีคนต้องการมากขึ้นก็จะทำให้มีการเพิ่มกำลังการขุดมากขึ้น และเมื่อขุดเยอะขึ้นทองคำก็จะหายากขึ้น ทำให้ต้นทุนในการขุดเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกันกับบิตคอยน์ เมื่อบิตคอยน์มีมูลค่าสูงขึ้นเพราะมีคนต้องการมากขึ้น คนก็จะหันไปขุดมากขึ้นเพราะบิตคอยน์มีมูลค่าสูงก็จะได้รายได้จากการขุดมาก แต่เมื่อคนแห่กันไปขุดมากๆบิตคอยน์ก็ปรับความยากขึ้นทำให้ต้นทุนนักขุดมีแต่จะสูงขึ้นๆ และของที่มันมีต้นทุนมันก็จะมีราคานั่นเอง
2. ความบริสุทธ์และตรวจสอบได้
ทั้งทองและบิตคอยน์มีคุณลักษณะที่เหมือนกันคือ มีกระบวนการได้มาที่ยากแต่มีกระบวนการตรวจสอบของแท้หรือของปลอมที่ง่าย ด้วย PoW หรือหลักฐานว่าได้ทำงาน บิตคอยน์มีสมาชิกทุกคนในระบบคอยตรวจสอบและเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างบิตคอยน์ปลอมออกมา
3. ความคงทน
บิตคอยน์รักษาความคงทนไว้ด้วยกำลังขุดมหาศาลทั้งหมดในระบบ และโครงข่ายบล็อกเชนที่กระจายอยู่ทั่วโลก (อวกาศก็มีนะ) ถ้าจะทำลายบิตคอยน์คงต้องทำลายคอมพิวเตอร์ทั้งหมดบนโลกนี้ก่อน ซึ่งถ้าคอมพิวเตอร์ทั้งหมดบนโลกเกิดถูกทำลายก่อนจะเป็นห่วงบิตคอยน์คงต้องเป็นห่วงสภาพโลกตอนนั้นก่อนแล้วล่ะ
แต่ด้วยความที่บิตคอยน์เป็นดิจิทัลก็จะมีบางส่วนที่ใช้ประโยชน์จากความเป็นดิจิทัลนี้ได้ อย่างเช่น
- บิตคอยน์แยกหน่วยรวมหน่วยได้ง่ายกว่าทองคำ ด้วยความที่บิตคอยน์เป็นดิจิทัลการจะแตกหน่วยเล็กๆระดับทศนิยมเพื่อนำมาใช้ก็สามารถทำได้ โดยบิตคอยน์มีหน่วยเล็กที่สุดที่ 0.00000001 บิตคอยน์ หรือ หนึ่งในร้อยล้านของบิตคอยน์ ด้วยการที่แยกเป็นหน่วยย่อยได้แบบนี้ในวันที่บิตคอยน์มีมูลค่าสูงกว่านี้จะทำให้เรายังสามารถเข้าถึงบิตคอยน์ได้อยู่
- ส่งผ่านทางไกลได้อย่างรวดเร็ว บิตคอยน์อยู่บนระบบโครงข่ายคอมพิวเตอร์แค่ผู้รับและผู้ส่งเชื่อมต่อกันก็จะส่งบิตคอยน์หากันได้โดยใช้เวลาประมาณ 10 เพื่อรอบล็อกคอนเฟิร์ม
แล้วเวลาวิกฤติทำไมคนไม่ซื้อบิตคอยน์ ?
ยกตัวอย่างเช่นสงครามยูเครน-รัสเซีย คนหันไปซื้อทองคำเพราะกลัวสงครามจะเกิดขึ้นจนราคาทองคำขึ้นสูง แต่กลับกันราคาบิตคอยน์ร่วงในทันทีเพราะคนพากันขาย มีนักวิเคราะห์มองว่าเป็นเพราะตอนนี้คนส่วนมากในโลกยังไม่รู้จักบิตคอยน์หรือรู้ถึงความสำคัญของมัน ผู้ที่รู้จักและในวงการบิตคอยน์ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักเก็งกำไรที่หารายได้จากความผันผวนของบิตคอยน์ เมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤติ นักเก็งกำไรก็จะมีปฏิกิริยาที่รวดเร็วกับสถานการณ์ อาจเป็นเพราะมีความตื่นตะหนกหรือเพราะคาดการณ์ว่าคนที่ถือบิตคอยน์จะตื่นตะหนกแล้วรีบขายบิตคอยน์เพราะเกิดสงคราม จึงทำให้บิตคอยน์ราคาร่วงเสมอเวลาเจอเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่มีผลกับคนหมู่มาก เช่น สงคราม การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากของ FED ถ้าในอนาคตคนรู้จักบิตคอยน์ดีกว่านี้ เวลาวิกฤติบิตคอยน์อาจจะเป็นที่พึ่งในการเก็บเงินแหล่งที่สองรองจากทองคำก็เป็นได้