สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยเฉพาะดูไบ อาบูดาบี และรัฐเกิดใหม่อย่างราสอัลไคมาห์ กำลังกลายเป็นจุดหมายหลักของเศรษฐีคริปโตจากทั่วโลก ไม่ใช่แค่เพราะไม่เก็บภาษี แต่เพราะที่นี่ “พร้อมให้สร้างอนาคต” ทั้งในมุมของธุรกิจ กฎหมาย และไลฟ์สไตล์

1. ไม่เก็บภาษีคริปโต: ขายกำไรเท่าไรก็ไม่โดนหัก

UAE ไม่เก็บภาษีรายได้หรือภาษีกำไรจากการขายสินทรัพย์ส่วนบุคคล รวมถึง Bitcoin, NFT, หรือเหรียญใด ๆ ที่บุคคลถือไว้เอง หมายความว่าเราสามารถเทขายพอร์ตได้เต็ม ๆ โดยไม่ต้องแบ่งให้รัฐแม้แต่บาทเดียว

แม้จะมีภาษีนิติบุคคล 9% ที่เริ่มในปี 2023 แต่ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินคริปโตส่วนบุคคล และล่าสุดรัฐบาลยังออกประกาศยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 5% สำหรับการซื้อขายและโอนเหรียญย้อนหลังตั้งแต่ปี 2018 ด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเราทำกำไรจากคริปโตใน UAE กำไรนั้น “ปลอดภาษี 100% อย่างถูกกฎหมาย”

2. มีกฎชัดเจน ไม่มั่ว ไม่คลุมเครือ

ดูไบและอาบูดาบีเป็นเมืองต้นแบบด้านกฎระเบียบคริปโต ดูไบ จัดตั้งหน่วยงาน VARA (Virtual Assets Regulatory Authority) โดยเฉพาะเพื่อดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง มีระบบออกใบอนุญาตชัดเจน จนบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Binance และ Crypto.com เข้ามาเปิดดำเนินการอย่างถูกกฎหมาย

อาบูดาบี ก็มีกฎระดับสถาบันผ่าน FSRA (หน่วยงานกำกับของ ADGM) ที่ออกตั้งแต่ปี 2018 มีระบบดูแลเรื่องการซื้อขาย การเก็บเหรียญ การคัสโตเดีย และอื่น ๆ แบบครบวงจร

รัฐอื่น ๆ ก็เริ่มเดินตาม เช่น RAK (ราสอัลไคมาห์) ที่เปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับ Web3 โดยเฉพาะชื่อ RAK DAO หรือ ชาร์จาห์ ที่สร้าง Blockchain Academy ร่วมกับมหาวิทยาลัย

3. โครงสร้างพื้นฐานครบพร้อม: ตั้งบริษัทได้ทันที ใช้งานระบบทันสมัย

ในดูไบมีโซนพิเศษอย่าง DMCC Crypto Centre ที่มีบริษัทคริปโตตั้งอยู่กว่า 650 แห่ง พร้อมพื้นที่ทำงาน Co-working, ที่ปรึกษาทางธุรกิจ, อินเทอร์เน็ต 5G, และบริการ Cloud

ที่อาบูดาบีมี ADGM ซึ่งใช้ระบบกฎหมายอังกฤษ และมีเงินทุนมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนบริษัท Web3 โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโครงสร้างบริษัทและการถือสินทรัพย์แบบปลอดภัย

ไม่ใช่แค่ในเมืองใหญ่ รัฐอื่น ๆ อย่างชาร์จาห์ ฟูไจราห์ หรืออุมอัลไควน์ ก็มีโซนธุรกิจต้นทุนต่ำให้สตาร์ทอัพสายคริปโตเลือกได้เช่นกัน

4. รัฐบาลมีวิสัยทัศน์ ไม่กลัวอนาคต

UAE ไม่ได้แค่ “ยอมรับคริปโต” แต่กำลัง “สร้างอนาคต” จากมัน ปี 2018: เปิด Blockchain Strategy 2021 ตั้งเป้าใช้บล็อกเชนกับ 50% ของงานราชการ ปี 2022: เปิดตัว Dubai Metaverse Strategy ตั้งเป้าดึงเม็ดเงิน 1.1 พันล้านดอลลาร์ และสร้าง 40,000 งานในโลกเสมือน มีรัฐมนตรีด้าน AI และเศรษฐกิจดิจิทัลที่ผลักดันโครงการคริปโตโดยตรง สร้างพันธมิตรกับบริษัทระดับโลก เช่น Crypto.com เพื่อทดลองใช้บล็อกเชนในอสังหาริมทรัพย์ UAE ไม่เพียงให้พื้นที่สำหรับคริปโต แต่ยังขับเคลื่อนมันเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ

5. ได้วีซ่าระยะยาว + ใช้ชีวิตหรู ปลอดภัย เดินทางสะดวก

Golden Visa คือวีซ่าระยะยาว 10 ปี ที่ไม่ต้องมีนายจ้างค้ำประกัน เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการ นักลงทุน หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี (รวมถึงสายคริปโต)

คุณสามารถซื้อบ้าน เปิดบัญชีธนาคาร พาครอบครัวย้ายมาอยู่ได้อย่างถูกกฎหมายแบบไม่ต้องพึ่งใคร

นอกจากนั้น ยังมีชีวิตที่แทบจะ “เหมือนอยู่รีสอร์ตถาวร”เมืองปลอดภัย อาชญากรรมต่ำ มีอินเทอร์เน็ตเร็ว โรงเรียนอินเตอร์ โรงพยาบาลมาตรฐานสูง มีการใช้คริปโตกับบริการภาครัฐบางอย่างแล้ว เช่น จ่ายค่าธรรมเนียม เป็นฮับการบินระดับโลก เดินทางยุโรป–เอเชียสะดวก มีงานสัมมนา คอนเฟอเรนซ์ และกลุ่มเครือข่ายคริปโตจัดตลอดปี

Reference: Cointelegraph