วันจันทร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แสดงสัญญาณลบอย่างรุนแรง ดัชนีหุ้นร่วงหนัก Bitcoin (BTC) ร่วงแตะ $77,393 และมูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมลดลงเหลือ $2.57 ล้านล้าน นักลงทุนต่างเร่งประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นี่คือ 5 ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความปั่นป่วนในตลาดครั้งนี้
1. ความไม่แน่นอนด้านนโยบายเศรษฐกิจ
โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจาก แคนาดา เม็กซิโก และจีน จุดกระแสความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในขณะที่ทรัมป์ปฏิเสธที่จะตัดความเป็นไปได้นี้ออกไป ส่งผลให้
- ดัชนี Dow Jones ร่วง 2.3%
- S&P 500 ลดลง 3.1%
- Nasdaq Composite ดิ่ง 4.3% หนักสุดตั้งแต่ปี 2022
2. ความผิดหวังต่อกองทุนสำรองคริปโตของสหรัฐฯ
คำสั่งบริหารที่ออกเมื่อ 6 มีนาคม ว่าด้วยการจัดตั้ง U.S. Crypto Strategic Reserve ไม่ได้รวมแผนซื้อ Bitcoin ในทันที ทำให้ราคา BTC ร่วงลง 4% ภายในวันเดียว ส่งผลให้มีการชำระบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัลกว่า $650.80 ล้าน ขณะที่ Crypto Fear & Greed Index ดิ่งแตะ 20 ซึ่งเป็นสัญญาณความกังวลขั้นรุนแรงของนักลงทุน
3. กระแสเงินทุนไหลออกจากคริปโต
เงินทุนที่ไหลออกจากผลิตภัณฑ์ลงทุนในคริปโตสูงถึง $876 ล้าน ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 มีนาคม รวมมูลค่าการไหลออกกว่า $4.75 พันล้าน ตลอด 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ลดลงเหลือ $142 พันล้าน โดยเฉพาะ Bitcoin ที่มีการไหลออกมากถึง $756 ล้าน
4. แรงกระทบจากแฮก Bybit
การแฮก Bybit เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งสูญเสียทรัพย์สินมูลค่า $1.46 พันล้าน ให้กับกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับ เกาหลีเหนือ ยังคงส่งแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นในตลาดคริปโต นักลงทุนบางส่วนเทขายสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยง ขณะที่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต้องเร่งเสริมสภาพคล่องเพื่อชดเชยความเสียหาย
5. ตลาดผันผวนและแรงขายจากความกลัว
นโยบายของทรัมป์และคำพูดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ตลาดยิ่งผันผวน หุ้น Tesla ร่วงหนัก 14% ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ภาคเทคโนโลยีลดลง 4.2% และเข้าสู่แดนลบตั้งแต่ต้นปี 2025
ทิศทางตลาดต่อจากนี้…
การร่วงลงของตลาดทั้งสินทรัพย์ดั้งเดิมและคริปโตสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เชื่อมโยงกันระหว่างนโยบายเศรษฐกิจโลก ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และภัยคุกคามทางไซเบอร์ นักลงทุนยังต้องจับตาดูท่าทีของรัฐบาลและความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างใกล้ชิด
Reference : Bitcoin News