Uniswap Labs ประกาศเปิดตัว Unichain Mainnet บล็อกเชนแบบกระจายศูนย์ที่ออกแบบมาเพื่อลดต้นทุนธุรกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ DeFi
Unichain – Rollup ใหม่ เสริมศักยภาพ DeFi
เครือข่าย Layer 2 ของ Ethereum ที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ ผ่านการทดสอบด้วย 95 ล้านธุรกรรม และ 14.7 ล้านสัญญาอัจฉริยะ ภายในระยะเวลา 4 เดือน โดยมีจุดเด่นคือ
- ระยะเวลาบล็อกเพียง 1 วินาที
- ค่าธรรมเนียมถูกกว่าบน Ethereum กว่า 95%
Unichain ทำงานในรูปแบบ Stage 1 Rollup พร้อมใช้ระบบ permissionless fault proofs และมีแผนพัฒนาไปสู่ความเป็นกระจายศูนย์เต็มรูปแบบผ่าน Unichain Validation Network (UVN)
แพลตฟอร์มชั้นนำร่วมสร้างระบบนิเวศบน Unichain
จากประกาศล่าสุด มี 100 แพลตฟอร์มคริปโต ที่เข้าร่วมพัฒนาในเครือข่ายนี้ รวมถึง Uniswap, Coinbase และ Lido ซึ่งหลายแอปพลิเคชันเปิดให้ใช้งานแล้ว
นักพัฒนาสามารถ
- Deploy แอปพลิเคชัน
- สร้างฟังก์ชันเฉพาะตัวผ่าน Uniswap v4 hooks
- ใช้ Stablecoin อย่าง USDC
- รองรับมาตรฐาน ERC7683 เพื่อทำธุรกรรมข้ามเชน
ภายในปีนี้ Unichain จะเปิดใช้งานระบบ Superchain ที่ช่วยให้บล็อกเชนสามารถเชื่อมต่อกันโดยตรงแบบเนทีฟ
ใช้งานง่าย รองรับการทำธุรกรรมหลากหลาย
สำหรับผู้ใช้งาน Unichain สามารถ
- เชื่อมโยงสินทรัพย์ (bridging assets) ผ่านวอลเล็ตและแพลตฟอร์มอย่าง Coinbase
- เปิดตัวโทเคนใหม่ด้วยเครื่องมือเฉพาะ
- ให้สภาพคล่องผ่าน Uniswap v2, v3 และ v4
แผนพัฒนาในอนาคต จะเพิ่มฟีเจอร์ Trusted Execution Environment (TEE) ลดเวลาบล็อกเหลือ 250 มิลลิวินาที และลดปัญหา Miner Extractable Value (MEV)
Unichain มุ่งเน้นไปที่ scalability และ security พร้อมเปิดให้ชุมชนมีส่วนร่วมในกระบวนการตรวจสอบธุรกรรมผ่านเครือข่าย UVN อีกทั้งยังรองรับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน DeFi ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
Reference : Bitcoin News