Circle บริษัทผู้ออกเหรียญ USDC ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin อันดับสองของโลก มองว่า Stablecoin มีศักยภาพที่จะกลายเป็น “เงินของยุคอินเทอร์เน็ต” อย่างแน่นอน ในขณะที่การกำกับดูแลระดับโลกควรสอดคล้องกัน เพื่อให้ทุกบริษัทที่ออก Stablecoin สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบได้
Dante Disparte หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และนโยบายระดับโลกของ Circle กล่าวในการสัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า “Circle มั่นใจว่าจะมีการนำ Stablecoin มาใช้เป็นกระแสหลักในฐานะเงินสำหรับยุคดิจิทัล” และเสริมว่า “เราเชื่อว่าจะมีบริษัทเทคโนโลยีการชำระเงินและบริษัทด้านการเงินอื่น ๆ เข้ามาแข่งขันในตลาดนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Stablecoin จะอยู่ต่อไปในระยะยาว”
Disparte ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดให้มีกฎระเบียบที่สอดคล้องกันในระดับโลก โดยระบุว่า “หลักการสำคัญอย่างการจัดการเงินสำรองอย่างระมัดระวัง และการป้องกันการฟอกเงิน ควรใช้กับทุกบริษัทที่ออก Stablecoin สำหรับการชำระเงิน”
Circle เตรียมย้ายสำนักงานใหญ่ไปนิวยอร์ก
Circle เตรียมย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังนิวยอร์กภายในต้นปี 2025 หลังจากได้ยื่นขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ไปเมื่อต้นปีนี้ Disparte ระบุว่า สหรัฐฯ มีกรอบกฎหมายที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานระดับรัฐพัฒนากฎระเบียบเกี่ยวกับการชำระเงิน ขณะที่หลายประเทศอื่น ๆ มีกฎระเบียบที่เป็นมาตรฐานระดับชาติ
Disparte ยังกล่าวถึงกฎหมาย Stablecoin ในสหรัฐฯ โดยชี้ให้เห็นว่าการขาดกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนในสหรัฐฯ อาจเป็นภัยต่อผลประโยชน์ของประเทศ และอาจทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่อาศัยความเชื่อมั่นในดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งอาจกลายเป็นช่องทางสำหรับการกระทำผิดกฎหมายได้
Disparte เน้นว่าการมีกฎหมาย Stablecoin ในระดับรัฐบาลกลางเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อสนับสนุนการแข่งขันที่ปลอดภัยในตลาดการชำระเงินและการออมเงินในยุคดิจิทัล กฎหมายที่เสนอโดยคณะกรรมการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม 2023 ได้รับแรงสนับสนุนเป็นวงกว้าง และ Disparte เชื่อว่าควรได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส
นอกจากนี้ เขายังระบุว่ามาตรฐานเหล่านี้ควรนำไปใช้กับผู้ออกเหรียญ Stablecoin ในสหรัฐฯ และบริษัทต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เหรียญดอลลาร์ เช่น ในสหภาพยุโรปและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
กฎหมาย Markets in Crypto-Assets Regulation (MiCA) ของสหภาพยุโรปเริ่มมีผลบังคับใช้ในบางส่วนตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีกฎระเบียบใหม่สำหรับ Stablecoins ซึ่ง Circle ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับนี้แล้ว หลังจากได้รับใบอนุญาตสถาบันเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EMI) จากหน่วยงานกำกับดูแลของฝรั่งเศส ทำให้เหรียญ USDC และ EURC ปฏิบัติตามกฎหมายใหม่นี้ได้อย่างครบถ้วน
แม้ว่า MiCA จะนำเสนอกรอบกฎหมายที่ชัดเจนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ Disparte ก็ชี้ว่า “ยังมีบางส่วนที่ MiCA อาจเข้มงวดเกินไป และมีช่องว่างที่ EU กำลังพิจารณาปรับปรุงใน MiCA 2.0 เพื่อครอบคลุมพื้นที่เพิ่มเติม เช่น NFTs และ DeFi”
การแข่งขันในตลาด Stablecoin เพิ่มสูงขึ้น
ในขณะที่ Circle เติบโต PayPal ก็ได้เปิดตัวเหรียญ Stablecoin ของตัวเองอย่าง PayPal USD ซึ่งมียอดมูลค่าตลาดเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ไปแล้ว Ripple Labs เองก็กำลังทดสอบเหรียญ Ripple USD บนเครือข่าย XRP และ Ethereum ซึ่งมีแผนจะขยายไปยังบล็อกเชนอื่น ๆ
ขณะเดียวกัน Tether ยังคงเป็นผู้นำในตลาด Stablecoin ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 118 พันล้านดอลลาร์ และยังมีแผนที่จะเปิดตัวเหรียญ Stablecoin ใหม่ที่อิงกับสกุลเงินดิรฮัมของ UAE (AED)
Disparte ทิ้งท้ายด้วยการเชิญชวนให้ผู้แข่งขันรายอื่นเข้ามาในตลาดสหรัฐฯ, สหภาพยุโรป, สิงคโปร์ และอื่น ๆ เพื่อนำเสนอตัวเองในกระบวนการตรวจสอบและออกใบอนุญาตที่เข้มงวด
Reference : Cointelegraph