พฤติกรรมต่างๆสามารถทำให้การลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีเกิดผลกระทบได้ ซึ่งมีการศึกษาพฤติกรรมที่ส่งผลต่อการลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี ทั้งในด้านจิตวิทยาและเศรษศาสตร์ โดยพฤติกรรมที่ไม่ดีอาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เราจึงต้องสังเกตพฤติกรรมต่างๆเหล่านี้ของตนเองเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
พฤติกรรม 1 มั่นใจเกิน
ภาะวะมั่นใจเกินเหตุเกิดขึ้นกับนักเทรดที่มั่นใจกับความสามารถในการเทรดของตนเองมากเกินไป ทำให้นักเทรดเหล่านี้มีการตัดสินใจที่มีความเสี่ยงสูงหรือทำการเทรดบ่อยเกินไป รวมถึงยังมีความมั่นใจเกินเหตุในเหรียญคริปโทฯที่ตัวเองลงทุนอยู่ ทำให้ลงทุนหนักเกินไป จนพอร์ตขาดการกระจายความเสี่ยง
มีการศึกษาของ Dr. Kai Ruggeri ผู้เป็นศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยโคลอมเบียได้สรุปเอาไว้ว่า ยิ่งนักลงทุนรายย่อยเทรดบ่อยมากเท่าไร ก็จะสามารถทำเงินได้น้อยลงเท่านั้น สิ่งที่ควรทำคือเทรดให้น้อยลง แต่ลงทุนให้มากขึ้น เพราะเวลาเราลงทุนกับสิ่งใดเรามักจะศึกษาพื้นฐานของสินทรัพย์นั้น และมองหามูลค่าที่แท้จริงว่ามีค่ามากน้อยเพียงใด
ซึ่งการศึกษาก่อน แล้วทำการจัดสรรการลงทุนคือสิ่งที่ควรทำ ทำให้เราสามารถลดความเสี่ยงได้ดีกว่าการลงทุนเพียงเหรียญๆเดียว เพราะถึงแม้เราจะมั่นใจในเหรียญใดเหรียญใดหนึ่งจริงๆ แต่มันก็มีปัจจัยมากมายที่ทำให้เหรียญนั้นเสื่อมราคาได้
พฤติกรรม 2 ไม่ยอมตัดใจ
มีการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ระบุว่านักเทรดมักจะขายทำกำไรเร็วเกินไป 2 เท่า และขายขาดทุนช้าไป 2 เท่า เพียงเพราะไม่อยากเสียใจจากการสูญเสียกำไรหรือเงินทุน นักเทรดเลือกหนทางที่ไม่ต้องพบกับความเสียใจ ถึงแม้มันจะทำให้การกระทำบางอย่างไม่สมเหตุสมผลก็ตาม เช่นประโยคที่ว่า “ไม่ขายไม่ขาดทุน” มันเป็นประโยคที่ไว้ปลอบใจตัวเอง เพราะสิ่งที่ควรทำคือการหาจุด cut-loss ดีๆแล้วหาจุดเข้าซื้อใหม่ การปล่อยถือเหรียญที่ราคาร่วงไปเรื่อยๆทำให้เรามีต้นทุนค่าเสียโอกาสที่เพิ่มขึ้น แทนที่จะได้นำเงินที่เหลือไปทำการเทรดจุดอื่นเพื่อทำกำไร เรากับต้องถือรอราคาเหรียญกลับขึ้นมา ซึ่งบางทีอาจใช้เวลาหลายปี
วิธีแก้ไขปัญหานี้เบื้องต้นคือการหาจุดขายตั้งแต่ก่อนเริ่มเทรดหรือลงทุน ดีกว่าที่จะทำการตัดสินใจขายในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน และทำกลยุทธ์นี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความฟุ้งซ่านในใจแล้วทำตามแผนต่อไป หรือจะใช้วิธีพื้นฐานอย่าง DCA ที่สิ่งที่เราต้องทำคือการซื้อเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีโดยไม่สนใจราคา แต่จะซื้อเป็นประจำ เช่น ทุกเดือน ทุกสัปดาห์ ทำการซื้ออย่างนี้ไปเรื่อยๆเพื่อถัวเฉลี่ยต้นทุน แล้วเราจะได้กำไรในระยะยาว
[Risk/Reward คืออะไร ใช้งานอย่างไร]
พฤติกรรม 3 ไม่ศึกษาพื้นฐานเหรียญ
มีเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีมากมายอยู่ในตลาด แต่ละโปรเจคก็มีความหลากหลายและความสามารถแตกต่างกันออกไป ซึ่งในเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีนับหมื่นนี้ ความสามารถในการศึกษาทำความเข้าใจของเรานั้นมีจำกัด ซึ่งเหรียญจำนวนมากนี้ก็มีโอกาสทำให้เราสับสน และอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เพียงพอ
สิ่งที่เราควรทำคือไม่รีบร้อน ไม่มีเทรดหรือลงทุนในโปรเจคที่เรายังไม่ศึกษา ว่าโปรเจคนั้นทำอะไร มีประโยชน์และความสำคัญอย่างไร ทำการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและวิเคราะห์กราฟให้ดีก่อนจะเข้าเทรด ยกตัวอย่างเช่นเวลามีเหรียญคริปโทฯใหม่ๆมาแรง + 40% + 50% มักจะทำให้เราสนใจและไม่อยากตกรถ จนรีบโดดเข้าไปลงทุนโดยไม่ได้ศึกษาให้ดี และมันอาจทำให้เราขาดทุนได้
[Cryptocurrency Whitepaper คืออะไร สำคัญอย่างไร]
พฤติกรรม 4 ไล่ตามราคา
โดยปกติแล้วตลาดคริปโทฯที่มีความผันผวนสูง จึงทำให้ราคาของเหรียญอาจบวกขึ้นได้ทีละหลายสิบเปอร์เซ็นต์ ทำให้นักเทรดเกิดความโลภและซื้อไล่ตามราคาที่กำลังขึ้นสูง แทนที่จะรอเวลาที่ราคาพักตัว แล้วหาจุดเข้าซื้อที่เหมาะสม เพราะการไล่ซื้อเหรียญที่ราคากำลังขึ้นสูง จริงๆแล้วราคา ณ จุดนั้นอาจถึงจุดสูงสุดแล้ว และราคากำลังจะร่วงลง
สิ่งที่เราควรทำคือมองหาเหรียญที่ยังมีมูลค่าไม่สูง แล้วเราพิจารณาว่ามูลค่าของเหรียญอาจสูงขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งมีคำพูดของ Warren Buffet ที่ว่า “จงกลัวเวลาที่คนอื่นโลภ แล้วจงโลภเวลาที่คนอื่นกลัว” ที่สามารถนำไปใช้กับสถานการณ์นี้ได้
Reference : Binance Academy