Crypto Wallet คืออะไร

เมื่อเรามีเงินอยู่บนระบบบล็อกเชน เราต้องมีที่เก็บของส่วนตัวที่เราสามารถใช้งานได้คนเดียว และสามารถโอนหรือรับโอนจากคนอื่นได้ ซึ่งบนระบบบล็อกเชนเป็นระบบที่ไม่มีศูนย์กลาง ไม่มีตัวกลางมาคอยหักลบบัญชีให้เรา แต่เราต้องแสดงความเป็นเจ้าของเหรียญที่เรามีบนระบบเอง Crypto Wallet จึงเปรียบเสมือนกุญแจที่ทำให้เราสามารถแสดงความเป็นเจ้าของเหรียญของเราได้ ซึ่งประกอบไปด้วยกุญแจสาธารณะ (Public key ) และ กุญแจส่วนตัว (Private key)

Public key

มีสถานะตรงตามชื่อก็คือทุกคนสามารถใช้กุญแจนี้ได้ แต่กุญแจนี้ก็เหมือน Email Address ของเราที่ใครรู้ก็สามารถส่งข้อความหาเราได้ เหมือนกันในระบบบล็อกเชน Public Key ก็คือ Address ที่ใครๆก็สามารถส่งเหรียญให้เราได้ ซึ่งถ้าเราต้องการส่งเหรียญให้ใครสักคนหรือดูประวัติธุรกรรมของใครสักคนเราก็เพียงต้องรู้ Public Key ของคนๆนั้นนั่นเอง

Private key

Private key หรือกุญแจส่วนตัวเป็นกุญแจที่เราจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้อย่างดี ห้ามหาย ห้ามคนอื่นรู้ เพราะการจะส่งเหรียญออกไปให้คนอื่นจำเป็นต้องมีกุญแจนี้ เพราะเป็นการแสดงความเป็นเจ้าของเหรียญที่เรามี ซึ่งทั้ง Public key ,Private key ต่างเป็นเลขฐาน 16 สุ่มๆหลายตัวๆ ต่อมาภายหลังจึงได้มีการพัฒนาตัดตัวเลขเยอะๆแปลงให้เป็นตัวอักษรสั้นๆ 12 คำจาก 2048 คำ อย่างเช่น nee, stock , passing , indigene , unfasten, guile , topper , soak , jinni, dry, dinghy, pickax เป็นต้น ซึ่งมีความปลอดภัยไม่แพ้เลขฐาน 16

 

ยกตัวอย่าง

A จะส่ง 5 BTC ให้ B

A ต้องมี Private Key ของตัวเอง และ Public Key ของ B

B จะเข้าถึงเงินที่ได้รับมาได้ก็จะต้องมี Private Key ของตัวเอง

ด้วยความยาวของ Public key ,Private key นี้เป็นสิ่งที่ยากเกินจะจดจำผู้คนจึงได้หาวิธีที่จะเข้าถึง Wallet ของตัวเองให้ง่ายที่สุดและปลอดภัยที่สุด จึงได้สร้าง Wallet ต่างๆแบ่งตามประเภทการใช้งานได้ดังนี้

Paper wallet

ก็คือการบันทึกลงกระดาษนั่นเองเหมือนเราจดรหัสต่างๆลงในกระดาษธรรมดา โดยจะบันทึกทั้ง Public key และ Private key รวมถึง QR code ของ Wallet ไว้นั่นเอง ซึ่งก็มีข้อเสียก็คือกระดาษอาจจะหายหรือเสียหาย แต่ถ้าเราเก็บกระดาษไว้อย่างดีวิธีนี้ก็เป็นวิธีเก็บที่ดีที่สุดเลย

Hardware wallet

เป็นอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กที่เก็บกุญแจของเราไว้ เวลาจะใช้งานก็นำอุปกรณ์นี้ไปเชื่อมต่อเราก็จะสามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปกติอุปกรณ์พวกนี้จะไม่เชื่อมต่อกับ Internet ก็จะมีความปลอดภัยต่อการ Hack แต่ก็มีข้อเสียก็คืออาจจะทำหายได้

Software wallet

Web wallet

เป็น Wallet ที่ใช้งานง่ายที่สุด อย่างเช่น Exchange ต่างๆเพียงแค่เราไปสมัครใช้บริการกับ Website นั้นๆก็สามารถใช้งานได้ทันที แต่ก็มีความเสี่ยงสูง เพราะว่าเว็บจะเก็บ Key ของเราไว้ ซึ่งถ้าเว็บไซต์ถูกแฮคหรือหอบเงินเราหนีไปเราก็จะเสียเงินไปอย่างง่ายดาย

Mobile Wallet

จะเก็บ Key ไว้ในโทรศัพท์ของเรา ซึ่งความปลอดภัยของการเก็บวิธีนี้ก็คือโทรศัพท์ของเรามีความปลอดภัยแค่ไหน และถ้าโทรศัพท์พังหรือทำการล้างเครื่อง Key ก็จะหายไปด้วย

Desktop Wallet

จะเป็นการเก็บ Key ไว้บนคอมพิวเตอร์ของเราซึ่งคล้ายๆ Mobile wallet แต่ไม่สามารถพกพาได้สะดวกเท่า ถ้าต้องการใช้นอกสถานที่อาจจะไม่สะดวกเท่าไรและถ้าคอมพิวเตอร์เสียหายหรือข้อมูลในเครื่องหาย Key เราก็จะหายไปด้วย