กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ได้ออกหมายค้นทั้งหมด 6 ฉบับ และยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับเหรียญคริปโตมูลค่ากว่า 2.8 ล้านดอลลาร์ รวมถึงเงินสดอีก 70,000 ดอลลาร์ และรถยนต์หรู จากบัญชีคริปโตที่ควบคุมโดยชาวรัสเซียชื่อ Ianis Aleksandrovich Antropenko ซึ่งถูกตั้งข้อหาว่าสมคบในการฉ้อโกงระบบคอมพิวเตอร์, ทุจริตทางคอมพิวเตอร์ และสมคบฟอกเงิน โดยทรัพย์สินเหล่านี้ถูกระบุว่าเป็นผลประโยชน์หรือเกี่ยวข้องกับกระบวนการฟอกเงินจากการโจมตีเรียกค่าไถ่ Zeppelin ransomware 

รายละเอียดจากหมายค้นระบุว่า Antropenko ใช้บริการผสมเหรียญอย่าง ChipMixer ซึ่งถูกปิดในปฏิบัติการร่วมระหว่างประเทศในปี 2023 เพื่ออำพรางแหล่งที่มาของเงินเหล่านี้ นอกจากนี้ เขายังแลกเปลี่ยนคริปโตเป็นเงินสดแล้วฝากเงินเข้าธนาคารในรูปแบบโครงสร้าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิธีการนำเงินเข้าสู่ระบบทางการอย่างไม่เปิดเผย 

การยึดทรัพย์ครั้งนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐที่จะนำทรัพย์สินดิจิทัลเข้าสู่ กองทุนสำรองดิจิทัลของชาติ (crypto reserve) ซึ่งก่อตั้งขึ้นตามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ DOJ ก็เพิ่งยึดคริปโตมูลค่าประมาณ 1 ล้านดอลลาร์จากกลุ่มแรนซัมแวร์ BlackSuit และยังอยู่ระหว่างดำเนินการยึด Bitcoin มูลค่า 2.4 ล้านดอลลาร์จากคดีที่ FBI ดัลลัสจัดการเมื่อต้นปี 

นอกจากนี้ ตามข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ (Treasury) ระบุว่า ณ ปัจจุบัน รัฐบาลมี Bitcoin สะสมจากการยึดในคดีอาญามูลค่ารวมราว 20 พันล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่า 198,012 BTC ซึ่งหากพิจารณาราคาประมาณ 117,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญในขณะนั้น จะเท่ากับสินทรัพย์ดิจิทัลในกองทุนที่มีมูลค่ากว่า 23 พันล้านดอลลาร์อยู่แล้ว

Reference: Cointelegraph