Coinbase (Nasdaq: COIN) ประกาศเมื่อวันที่ 28 เมษายน ว่าได้เปิดตัว Coinbase Bitcoin Yield Fund (CBYF) ซึ่งเป็นกองทุนใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับนักลงทุนสถาบันที่ต้องการผลตอบแทนจาก Bitcoin แต่เน้นลดความเสี่ยงลงอย่างมาก พัฒนาโดย Coinbase Asset Management (CBAM) เป้าหมายของ CBYF คือการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าสมัครและไถ่ถอนกองทุนด้วย Bitcoin โดยตรง ทางบริษัทระบุว่า:

“กองทุนนี้ใช้กลยุทธ์เชิงอนุรักษ์นิยม มุ่งหวังผลตอบแทนสุทธิ 4–8% ต่อปีเป็น Bitcoin ตลอดช่วงวัฏจักรตลาด โดยให้นักลงทุนทำธุรกรรมด้วย Bitcoin ทั้งการลงทุนและการถอนเงิน”

CBYF จะเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ และจะอนุญาตให้มีการสมัครใหม่หรือไถ่ถอนได้เดือนละครั้ง โดยแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วันทำการ ทั้งนี้คาดว่ากองทุนจะรองรับมูลค่าสินทรัพย์สูงสุดได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์ และในช่วงแรกจะเปิดให้บริการเฉพาะนักลงทุนสถาบันนอกสหรัฐฯ ผ่านผู้ดูแลสินทรัพย์ (custodians) ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน

ได้รับการสนับสนุนล่วงหน้า และจับมือพันธมิตรในตะวันออกกลางและเอเชีย

Coinbase เปิดเผยว่า กองทุน CBYF ได้รับการลงทุนเบื้องต้นจากหลายฝ่ายแล้ว หนึ่งในนั้นคือ Aspen Digital ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับของ FSRA ที่อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ Aspen Digital ยังได้รับสิทธิเป็นพันธมิตรแต่เพียงผู้เดียวในการกระจายกองทุนใน UAE และเอเชีย อีกด้วย

Coinbase เน้นมาตรฐานการเงินดั้งเดิม ผสานโลกสินทรัพย์ดิจิทัล

Coinbase Asset Management วางตำแหน่งตัวเองเป็นประตูเชื่อมระหว่างสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมกับสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการปฏิบัติตามมาตรฐานทางการเงินอย่างครบถ้วน โดย CBAM เป็นทั้งที่ปรึกษาการลงทุนที่จดทะเบียนกับ SEC, เป็น CPO และ CTA ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ CFTC, และยังเป็นสมาชิกของ National Futures Association (NFA)

บริษัทเน้นว่า:

“เราออกแบบ CBYF เพื่อลดความเสี่ยงการลงทุนและการดำเนินการ ซึ่งเราเชื่อว่าสอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนสถาบัน”

แตกต่างจากกองทุน Yield Bitcoin ทั่วไปที่มักเสี่ยงสูง

CBAM ชี้ว่ากลยุทธ์ของ CBYF แตกต่างจากกองทุน Yield ทั่วไปอย่างชัดเจน เพราะเลือกหลีกเลี่ยงวิธีที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การปล่อยกู้ Bitcoin ที่ให้ดอกเบี้ยสูง หรือการขาย call option อย่างเป็นระบบ

CBYF ใช้ระบบ third-party custody ทำการซื้อขายโดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ออกจากที่จัดเก็บ (cold storage) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงคู่สัญญา (counter-party risk) อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมเน้นกลยุทธ์ที่มั่นคงมากกว่าเพื่อรองรับสถาบันที่ต้องการความปลอดภัยสูง