กระแสสะสม Bitcoin โดยกลุ่มวาฬและสถาบันขนาดใหญ่ยังคงดุเดือดต่อเนื่อง ล่าสุด Strategy ส่งสัญญาณบอกใบ้ว่าเตรียมประกาศการลงทุนครั้งใหม่เร็ว ๆ นี้ โดย Michael Saylor ผู้ร่วมก่อตั้ง Strategy ได้โพสต์ข้อความบน X เมื่อวันที่ 27 เมษายน ว่า:

“Stay Humble. Stack Sats.”

ข้อความสั้น ๆ นี้สร้างกระแสคาดเดาในหมู่นักลงทุนอย่างกว้างขวาง ว่าการซื้อครั้งถัดไปของ Strategy อาจมีขนาดมหาศาลถึง 1.4–1.6 พันล้านดอลลาร์ ตามการประเมินของนักวิเคราะห์บล็อกเชนชื่อดัง RunnerXBT ซึ่งมากกว่าการลงทุนครั้งก่อนถึงสามเท่า

ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Strategy เพิ่งเข้าซื้อ Bitcoin มูลค่า 555 ล้านดอลลาร์ ที่ราคาเฉลี่ย 84,785 ดอลลาร์ต่อเหรียญ และยังคงครองตำแหน่งบริษัทที่ถือ Bitcoin มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนกว่า 538,200 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 50.5 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก Bitbo

แรงบันดาลใจจากแนวทางของ Strategy ยังได้ส่งอิทธิพลต่อบริษัทอื่น ๆ เช่น Metaplanet บริษัทลงทุนจากญี่ปุ่นที่ล่าสุดก็สะสม Bitcoin ทะลุ 5,000 BTC ไปเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนการยอมรับ Bitcoin ในเอเชีย

วาฬ Bitcoin เดินหน้าเก็บเหรียญ — ETF หนุนกระแสเพิ่มแรงซื้อ

นอกจาก Strategy แล้ว บรรดาวาฬ Bitcoin ก็ยังคงเดินหน้าเก็บสะสมอย่างจริงจัง โดยข้อมูลจาก Glassnode เผยว่า กระเป๋าเงินที่ถือ Bitcoin มูลค่าเกิน 1 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 124,000 ใบเมื่อวันที่ 7 เมษายน เป็นกว่า 137,600 ใบภายในวันที่ 26 เมษายน

กระแสสะสมนี้มีบทบาทสำคัญในการดันราคา Bitcoin ให้กลับมายืนเหนือ 94,000 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง โดย Iliya Kalchev นักวิเคราะห์จาก Nexo Dispatch อธิบายว่า:

“กระเป๋าเงินที่ถือ Bitcoin มากกว่า 10,000 BTC มีการสะสมอย่างดุเดือดด้วยแนวโน้มคะแนน 0.90 ขณะที่นักลงทุนรายย่อยเองก็เริ่มเปลี่ยนท่าทีมาเน้นถือระยะยาวมากขึ้นเช่นกัน”

ปัจจัยด้านการเมืองระหว่างประเทศก็เริ่มมีผลต่อทิศทางตลาดเช่นกัน โดยล่าสุด Donald Trump ยืนยันว่ากำลังเจรจากับจีนเกี่ยวกับการยกเว้นภาษีนำเข้าในบางรายการ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบรรเทาความตึงเครียดทางการค้าในระยะสั้น

ขณะเดียวกัน กระแสเงินลงทุนใน Bitcoin ETF ก็เร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยข้อมูลจาก Farside Investors ชี้ว่ากองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ มีเงินไหลเข้าสุทธิรวมกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่มีกระแสเงินไหลเข้าสูงที่สุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่เปิดตัว

Reference : Cointelegraph