ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3.1% จากที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.2% ส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อโดยรวมลดลง 0.1%

ความหวังลดดอกเบี้ยมาแรง ตลาดเสี่ยงเริ่มมีสัญญาณบวก

ตามรายงานของ Matt Mena นักกลยุทธ์ด้านการวิจัยคริปโตจาก 21Shares ข้อมูลเงินเฟ้อที่เย็นลงนี้ช่วยเพิ่มโอกาสที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งอาจเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดและดันราคาสินทรัพย์เสี่ยงขึ้น

Mena กล่าวเสริมว่า:

“โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอย่างมาก — ตลาดตอนนี้กำหนดความน่าจะเป็นของการลดดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมไว้ที่ 31.4% ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งภายในสิ้นปีพุ่งขึ้น 5 เท่าเป็น 32.5% และโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 4 ครั้งก็พุ่งจาก 1% เป็น 21%”

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขเงินเฟ้อออกมาดีกว่าคาด แต่ราคา Bitcoin กลับปรับตัวลงจาก $84,000 เหลือประมาณ $83,000 เนื่องจากนักเทรดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าของ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค

ทรัมป์กำลังกดตลาด เพื่อบีบให้เฟดลดดอกเบี้ย?

แม้โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แต่นาย Jerome Powell ประธานเฟดก็ย้ำหลายครั้งว่า เฟดจะไม่รีบลดดอกเบี้ยเร็วเกินไป ขณะที่ Christopher Waller ผู้ว่าการเฟดก็ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยกล่าวระหว่างการบรรยายที่มหาวิทยาลัย New South Wales เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ว่า “เฟดควรชะลอการลดดอกเบี้ยจนกว่าเงินเฟ้อจะลดลงมากกว่านี้”

คำพูดดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับนักวิเคราะห์ตลาดบางส่วน เนื่องจากหากเฟดไม่ลดดอกเบี้ยเร็วพอ อาจทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะขาลงและราคาสินทรัพย์ร่วงหนัก

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม นักวิเคราะห์ตลาดและนักลงทุนชื่อดัง Anthony Pompliano ตั้งข้อสังเกตว่า ทรัมป์อาจจงใจกดตลาดการเงิน เพื่อบีบให้เฟดลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น

สหรัฐฯ ต้องรีไฟแนนซ์หนี้ 9.2 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนถึงปี 2025

ข้อมูลจาก The Kobeissi Letter ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีหนี้ที่ต้องรีไฟแนนซ์ราว $9.2 ล้านล้าน ภายในปี 2025

หากไม่สามารถรีไฟแนนซ์หนี้เหล่านี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง จะทำให้ หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ซึ่งตอนนี้พุ่งเกิน $36 ล้านล้าน เพิ่มสูงขึ้นอีก และดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

ด้วยเหตุนี้เอง การลดดอกเบี้ยจึงกลายเป็นเป้าหมายหลักของทรัมป์ แม้ว่าจะต้องแลกมากับการทำให้ตลาดและภาคธุรกิจเผชิญแรงกดดันในระยะสั้นก็ตาม

Reference : Cointelegraph