ข้อมูลจาก TradingView และ Glassnode ชี้ให้เห็นว่าความผันผวนของ Bitcoin กำลังเข้าใกล้จุดสูงสุดของรอบนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจจะเกิดขึ้นและแผนการสร้างคลังสำรองคริปโตของสหรัฐฯ
สัญญาณทั้งขาขึ้นและขาลง ปะปนกันหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม ทำให้ราคาคริปโตแกว่งตัวรุนแรง
Glassnode รายงานเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ว่า
“การแกว่งตัวของราคาอย่างรุนแรงแสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนในสภาพแวดล้อมทางการเมือง”
ความผันผวนที่ทำสถิติสูงสุดในรอบนี้
Realized Volatility ของ Bitcoin ซึ่งวัดความผันผวนของราคาจริง กำลังเข้าใกล้จุดสูงสุดของรอบ โดยมีค่าเกิน 80% ในช่วงเวลา 1-2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก Glassnode
ด้าน Average True Range (ATR) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรวัดความผันผวน ก็พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดของรอบเช่นกัน โดยแตะ 4,900 เพิ่มขึ้นจากประมาณ 3,000 ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ตามข้อมูลจาก TradingView
ราคาตกหนักตั้งแต่จุดสูงสุดในเดือนธันวาคม
จนถึงวันที่ 5 มีนาคม ราคา BTC ลดลงเกือบ 30% จากจุดสูงสุดที่ประมาณ $109,000 ในเดือนธันวาคมเหรียญอื่น ๆ อย่าง Ether (ETH) และ Solana (SOL) ก็ปรับตัวลงมากกว่า 50% จากจุดสูงสุดเช่นกัน ตามข้อมูลจาก Glassnode
สงครามการค้ากับภาษี 25% สร้างแรงกดดันตลาดคริปโต
4 มีนาคม: โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้ ภาษี 25% กับแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของสหรัฐฯ
ข่าวร้ายนี้กลับกลายเป็น “หลอกล่อ” สำหรับเทรดเดอร์ที่เคยคาดหวังเชิงบวก หลังจากทรัมป์ประกาศแผนจะสร้างคลังสำรองคริปโต ของสหรัฐฯ ที่จะถือเหรียญหลากหลายชนิด ทั้ง BTC, ETH, XRP และ Cardano (ADA)
ราคาตลาดร่วงหนักหลังข่าวภาษี
3 มีนาคม: Bitcoin พุ่งขึ้นแตะ $93,000 แต่ร่วงลงไปเหลือประมาณ $82,000 หลังข่าวภาษีถูกเผยแพร่ ตามข้อมูลจาก Google Finance เหรียญอื่น ๆเช่น ETH ร่วงลงประมาณ 12% SOL ร่วงลงประมาณ 20%
ปัจจัยมหภาคกดดันตลาดคริปโต
การเทขายรอบนี้แสดงให้เห็นว่าปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค สามารถส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมคริปโตได้มาก แม้จะมีข่าวดีจาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) ที่ยกเลิกคดีฟ้องร้องบริษัทคริปโตหลายแห่งในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ก็ไม่สามารถหยุดการเทขายได้
Reference : Cointelegraph