Deepseek สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากจีน ก่อตั้งโดย Liang Wenfeng ในปี 2023 กำลังสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในตลาดโลก ด้วยโมเดล AI ที่ล้ำสมัยและต้นทุนต่ำ กลายเป็นภัยคุกคามต่อยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม ส่งผลให้หุ้นบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ อย่าง Nvidia, Microsoft และ Meta ร่วงลงอย่างหนัก และยังสร้างความผันผวนในตลาดคริปโตอีกด้วย
Deepseek ดำเนินงานภายใต้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ High-Flyer โดยเน้นการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) แบบโอเพ่นซอร์ส ล่าสุดเปิดตัว Deepseek V3 ที่มีพารามิเตอร์สูงถึง 671 พันล้านตัว แต่ใช้งบประมาณเพียง $5.58 ล้าน ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ OpenAI และ Anthropic ที่ใช้เงินลงทุนระดับพันล้านดอลลาร์
ความสำเร็จนี้ทำให้ Deepseek กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ OpenAI, Meta และ Nvidia โดยโมเดลของบริษัทได้สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วตลาด ส่งผลให้หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ และยุโรป เช่น ASML และ Siemens Energy ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของโครงการ AI ที่ใช้ต้นทุนมหาศาล
AI Deepseek กับผลกระทบต่อคริปโตและตลาดการเงินโลก
นอกจากตลาดหุ้นแล้ว วงการคริปโตเองก็ได้รับผลกระทบจากการมาของ Deepseek โดยนักวิเคราะห์พบว่าโมเดล AI ของ Deepseek มีประสิทธิภาพสูงกว่าโมเดล o1 reasoning ของ OpenAI ให้ผลลัพธ์ที่เร็วและมีความสามารถในการให้เหตุผลที่ลึกซึ้งขึ้น ทำให้เกิดการเก็งกำไรว่า AI อาจเข้ามาเปลี่ยนโฉมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
อย่างไรก็ตาม กระแสความคาดหวังนี้ ไม่ได้ช่วยให้ราคาของเหรียญ AI token ฟื้นตัว เหรียญที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น Agent Coin Spectrum เผชิญกับการปรับฐานรุนแรง ขณะเดียวกัน Bitcoin เองก็ร่วงลงต่ำกว่า $100,000 เมื่อวันที่ 27 มกราคม เนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาด
จีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ AI ท้าทายอำนาจสหรัฐฯ
การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Deepseek สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ AI โดยจีนกำลังรุกคืบเข้ามาท้าทายอิทธิพลของบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ Deepseek ยังใช้กลยุทธ์กักตุนฮาร์ดแวร์ก่อนที่สหรัฐฯ จะออกมาตรการจำกัดการส่งออก ทำให้สามารถพัฒนาโมเดล AI ที่เทียบเท่ากับบริษัทตะวันตกได้ในต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก
ล่าสุด Deepseek ขึ้นแท่นแอปฟรีอันดับ 1 บน Apple App Store แซงหน้า ChatGPT ของ OpenAI และ Threads ของ Meta ซึ่งแสดงให้เห็นว่า AI จากจีนกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจเปลี่ยนสมดุลอำนาจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับโลก
Reference : Bitcoin News