สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ประกาศความร่วมมือในการปราบปรามการโจรกรรมคริปโตของ เกาหลีเหนือ (DPRK) ซึ่งถูกใช้เป็นทุนสนับสนุน โครงการอาวุธและปฏิบัติการอาชญากรรมไซเบอร์

แผนโจมตีทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือกระทบระบบการเงินโลก

แถลงการณ์ร่วมของทั้ง 3 ประเทศเตือนถึงภัยคุกคามจากปฏิบัติการไซเบอร์ของ DPRK ที่ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลก โดยกลุ่มแฮกเกอร์ของรัฐบาลเกาหลีเหนือ เช่น Lazarus Group ซึ่งถูกขึ้นบัญชีดำโดยทั้งสามชาติ ยังคงเดินหน้าก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ เพื่อขโมยคริปโตโดยพุ่งเป้าหมายไปที่

  • แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต
  • ผู้ให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล
  • ผู้ใช้ทั่วไป

มูลค่าความเสียหายจากการแฮกในปี 2024

แถลงการณ์เปิดเผยว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือก่อเหตุโจรกรรมมูลค่ามหาศาล เช่น

  • DMM Bitcoin สูญเงิน 308 ล้านดอลลาร์
  • Upbit ถูกแฮก 50 ล้านดอลลาร์
  • Rain Management สูญเงิน 16.13 ล้านดอลลาร์
  • Wazirx เสียหายจากมัลแวร์ 235 ล้านดอลลาร์
  • Radiant Capital ถูกโจมตี 50 ล้านดอลลาร์

เพิ่มความร่วมมือเพื่อปิดช่องโหว่ของอุตสาหกรรมคริปโต

ทั้ง 3 ประเทศเน้นย้ำว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เป็นกุญแจสำคัญในการรับมือภัยคุกคามเหล่านี้ รวมถึงการปกป้องธุรกิจและรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินโลก

มาตรการที่สำคัญ ได้แก่

  • โครงการแจ้งเตือนทรัพย์สินเสมือนผิดกฎหมายของสหรัฐฯ
  • ความร่วมมือของญี่ปุ่นกับสมาคมแลกเปลี่ยนคริปโตในประเทศ (JVCEA)
  • การประชุมร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เพื่อกระชับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน

เดินหน้าคว่ำบาตรและเพิ่มมาตรการความปลอดภัยไซเบอร์

ทั้งสามประเทศให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ของเกาหลีเหนือ ผ่านมาตรการต่างๆ เช่น

  • การคว่ำบาตรกลุ่มแฮกเกอร์และผู้เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมคริปโต
  • การเสริมสร้างศักยภาพด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

นี่เป็นอีกก้าวสำคัญของ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในการจำกัดความสามารถของเกาหลีเหนือในการหาเงินทุนผ่านอาชญากรรมไซเบอร์ และเสริมความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลก

Reference : Bitcoin News