คดีฟอกเงินคริปโตลงเอยด้วยโทษจำคุก
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) แถลงเมื่อวันที่ 17 มกราคมว่า Anurag Pramod Murarka ชาวอินเดียวัย 30 ปี ถูกตัดสินจำคุก 121 เดือน ฐานสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงินผ่านคริปโตเคอเรนซี โดยผู้พิพากษา Gregory Van Tatenhove เป็นผู้พิพากษาคดีนี้
Murarka ถูกพบว่ามีบทบาทสำคัญในการฟอกเงินกว่า 20 ล้านดอลลาร์ จากกิจกรรมผิดกฎหมาย โดยเขาทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตในตลาดมืด ใช้ชื่อแฝงอย่าง “elonmuskwhm” และ “la2nyc” พร้อมใช้การสื่อสารเข้ารหัสเพื่อประสานงานธุรกรรมผิดกฎหมาย
วิธีการฟอกเงินผ่านคริปโตและเครือข่าย Hawala
กระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่า Murarka ใช้คริปโตเพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงินที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม เช่น การแฮ็กข้อมูลและค้ายาเสพติด
กระบวนการฟอกเงินของ Murarka ทำงานอย่างไร
- กำหนดอัตราแลกเปลี่ยน
- Murarka ตกลงอัตราแลกเปลี่ยนคริปโตกับลูกค้าของเขา
- ส่งเงินคริปโตไปยังกระเป๋าเงินที่กำหนด
- ลูกค้าจะโอนคริปโตไปยังกระเป๋าเงินที่ Murarka ระบุ
- ใช้ระบบ Hawala เพื่อแปลงเป็นเงินสด
- Murarka ประสานงานผ่านเครือข่าย Hawala ซึ่งเป็นระบบโอนเงินแบบไม่เป็นทางการ โดยเชื่อมโยงกับตัวแทนในอินเดียและสหรัฐฯ
- กระจายเงินสดให้ลูกค้าในสหรัฐฯ
- ลูกทีมของ Murarka ในสหรัฐฯ จะรวบรวมเงินสดจากเครือข่าย Hawala แล้วบรรจุเงินสดในรูปแบบต่างๆ เช่น ซ่อนเงินไว้ระหว่างหน้าหนังสือหรือบรรจุในซองจดหมายหลายชั้น ก่อนส่งไปยังลูกค้า
FBI แฝงตัวทำลายเครือข่ายฟอกเงิน
หลังจาก Murarka ถูกจับ FBI ได้เข้าควบคุมระบบฟอกเงินของเขาเพื่อ ขยายผลและทลายเครือข่าย
ผลจากปฏิบัติการดังกล่าว FBI สามารถ
- ยึดเงินคริปโตมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
- ป้องกันบัญชีการเงินถูกแฮ็กเพิ่มเติม
- ยึดยาเสพติดปลอมและอุปกรณ์ผลิตยา
อัยการสหรัฐฯ Carlton S. Shier IV กล่าวว่า
“Murarka ให้ความช่วยเหลืออาชญากรนับไม่ถ้วนในการปกปิดเงินที่ได้จากการขโมยและค้ายาเสพติด”
บทลงโทษของ Murarka
- จำคุก อย่างน้อย 85% ของโทษ ก่อนมีสิทธิ์พิจารณาลดโทษ
- หลังพ้นโทษ จะถูกควบคุมความประพฤติ 3 ปี ภายใต้การดูแลของรัฐบาลสหรัฐฯ
คดีนี้เป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้ คริปโตเคอเรนซีเป็นเครื่องมือฟอกเงิน และแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินในโลกดิจิทัล
Reference : Bitcoin News