เมื่อวันที่ 8 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดชลบุรีเข้าตรวจค้นและยึดเครื่องขุด Bitcoin เกือบ 1,000 เครื่องจากบริษัทที่ถูกกล่าวหาว่าใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมายโดยดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อเลี่ยงค่าใช้จ่าย พล.ต.ต. มณตรี เทศขัน ผู้บัญชาการกองปราบปรามอาชญากรรม (CSD) ระบุว่าบริษัทดังกล่าวใช้มิเตอร์ที่ถูกดัดแปลงเพื่อเดินเครื่องขุดโดยไม่ต้องจ่ายค่าไฟเต็มจำนวน
ตามรายงานของ Bangkok Post พบว่าบริษัทดังกล่าวมีแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งอยู่ในพื้นที่ แต่ไม่ได้เชื่อมต่อกับเครื่องขุดไฟฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการขุด Bitcoin ใช้พลังงานจากแหล่งอื่นแทน ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ระบุว่าความเสียหายจากไฟฟ้าที่ถูกขโมยอาจสูงถึง 110 ล้านบาท หรือประมาณ 3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม มีรายงานอื่นที่ชี้ว่าค่าเสียหายอาจมากกว่านั้น
การบุกตรวจค้นครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก CSD ได้ทำการสืบสวนและพบว่าบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย โดยอ้างว่าดำเนินธุรกิจซื้อขายเงินดิจิทัล เมื่อตรวจสอบลึกลงไปพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมาย จึงขอหมายค้นและเข้าตรวจสอบพื้นที่
.
รายการของกลางที่ยึดได้จากจุดเกิดเหตุ ได้แก่
- เครื่องขุด Bitcoin จำนวน 996 เครื่อง
- คอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง
- เราเตอร์ 3 ตัว
- มิเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกดัดแปลงเพื่อขโมยไฟ 1 ตัว
.
เจ้าหน้าที่ได้นำของกลางทั้งหมดส่งต่อไปยังกองปราบปรามอาชญากรรม ขณะเดียวกันการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ยื่นคำร้องให้ดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าว
เจ้าหน้าที่รายหนึ่งระบุว่า “การขโมยไฟในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่าหลายล้านบาท แต่ยังส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าโดยรวมอีกด้วย”
แม้ว่ารัฐบาลไทยจะมีท่าทีที่เปิดกว้างขึ้นต่อคริปโตเคอเรนซีและบล็อกเชน แต่การขุด Bitcoin ยังคงเป็นประเด็นที่หน่วยงานกำกับดูแลให้ความสำคัญ กรมสรรพากรไทยกำหนดให้การขุด Bitcoin ถือเป็นกิจกรรมที่เข้าข่ายการผลิตทางอุตสาหกรรม ซึ่งต้องเสียภาษีภายใต้มาตรา 40(8) ของประมวลรัษฎากร
เหตุการณ์นี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการใช้ไฟฟ้าอย่างผิดกฎหมายในการขุด Bitcoin ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงไทย การจับกุมครั้งนี้อาจส่งผลให้มีมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับผู้ที่ดำเนินธุรกิจเหมืองขุดในอนาคต
.
.
Reference : Bitcoin News