คณะกรรมการกำกับดูแลการเงินของไต้หวัน (FSC) ประกาศเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา อนุญาตให้นักลงทุนมืออาชีพสามารถลงทุนในกองทุน ETF ที่เชื่อมโยงกับสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศได้อย่างเป็นทางการ

การเคลื่อนไหวครั้งนี้มุ่งเน้นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน และเปิดช่องทางการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดการเงินไต้หวัน

แม้จะเปิดกว้างมากขึ้น แต่ FSC ก็ยังคงติดตามสถานการณ์ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างใกล้ชิด โดยให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

ไต้หวันมีจุดยืนที่ค่อนข้างระวังตัวต่อสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะคริปโตเคอเรนซี เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การฉ้อโกงและความผันผวนของตลาด FSC จึงได้ออกมาตรการป้องกันการฟอกเงินอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีโครงการ FinTech Regulatory Sandbox ตั้งแต่ปี 2018 ที่เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพและสถาบันการเงินทดสอบนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยไม่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเต็มที่ทันที

การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งนี้ของไต้หวัน ถือเป็นการก้าวตามแนวทางของศูนย์กลางการเงินโลกอย่างฮ่องกงและสิงคโปร์ แต่การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่าน ETF จะถูกจำกัดเฉพาะนักลงทุนมืออาชีพเท่านั้น เพื่อควบคุมความเสี่ยง เนื่องจากการลงทุนประเภทนี้ถูกจัดให้เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงในไต้หวัน ดังนั้นบริษัทที่ต้องการเสนอผลิตภัณฑ์นี้จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ FSC อย่างเข้มงวด

แม้ว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในไต้หวันจะเริ่มเปิดรับมากขึ้น แต่ธนาคารกลางของไต้หวันก็ยังคงไม่รีบร้อนในการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) Yang Chin-long ประธานธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้กล่าวว่าการพัฒนา CBDC จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และไม่ต้องแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ

แม้ว่าไต้หวันจะได้พัฒนาโปรโตคอล CBDC สำหรับการชำระเงินในระดับรายย่อย และกำลังทดสอบการใช้งานสำหรับการค้าส่ง แต่ธนาคารกลางก็ยังคงเดินหน้าไปในทิศทางที่สอดคล้องกับเป้าหมายของนโยบายดิจิทัลของรัฐบาล

Reference : Cointelegraph