วุฒิสมาชิกรัฐโอไฮโอเสนอร่างกฎหมายใหม่ที่จะกำหนดให้รัฐยอมรับการชำระภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ด้วยสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังเปิดโอกาสให้สถาบันการศึกษาระดับสูงและกองทุนบำนาญของรัฐสามารถลงทุนในคริปโตได้หากต้องการ
Niraj Antani เป็นผู้เสนอร่างกฎหมายนี้เมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ตามประกาศข่าวอย่างเป็นทางการ
ตามเนื้อหาร่างกฎหมาย กรรมาธิการภาษีของรัฐจะเป็นผู้ตัดสินว่าสกุลเงินดิจิทัลใดบ้างที่รัฐจะยอมรับสำหรับการชำระภาษีในแต่ละปี โดยจะต้องประกาศก่อนวันที่ 30 มิถุนายน
“หน่วยงานของรัฐต้องยอมรับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกรรมาธิการภาษี … สำหรับการชำระภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ หรือการชำระเงินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐ”
นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังเปิดโอกาสให้หน่วยงานรัฐสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินดิจิทัลได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDC) จะไม่ถูกนับรวม โดยมีการระบุชัดเจนว่า “‘Cryptocurrency’ ไม่รวมถึงสกุลเงินที่เป็นสกุลเงินประจำชาติ” อีกทั้งการเลือกสกุลเงินดิจิทัลที่จะรับชำระอาจถูกจำกัดโดยคำจำกัดความในกฎหมาย:
“‘Cryptocurrency’ หมายถึง การแสดงมูลค่าในรูปแบบดิจิทัล … ที่คาดว่าจะรักษามูลค่าคงที่เมื่อเทียบกับมูลค่าทางการเงินที่กำหนดไว้แน่นอน”
นอกจากร่างกฎหมายนี้ ยังมีอีกหนึ่งร่างกฎหมายที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในสภารัฐโอไฮโอ ซึ่งต้องการยกเว้นการใช้ CBDC เป็นเงินตราตามประมวลกฎหมายการพาณิชย์ของรัฐ และยังมีร่างกฎหมายที่ให้การคุ้มครองอุตสาหกรรมการขุดคริปโตด้วย
Antani ยังได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า รัฐโอไฮโอเป็นรัฐแรกที่เริ่มยอมรับสกุลเงินดิจิทัลในการชำระภาษีตั้งแต่ปี 2018 แต่ในปีถัดมา อัยการสูงสุดของรัฐได้ให้คำแนะนำว่าคณะกรรมการเงินฝากของรัฐต้องเป็นผู้อนุมัติการใช้คริปโต ซึ่งไม่ได้รับการดำเนินการในขณะนั้น Antani จึงกล่าวเพิ่มเติมว่า:
“นโยบายนี้ควรถูกดำเนินการโดยคณะกรรมการเงินฝากของรัฐเมื่อต้องการ แต่เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ลงมือทำ สภานิติบัญญัติจึงต้องเป็นฝ่ายดำเนินการแทน”
ปัจจุบันมีเพียงรัฐโคโลราโดเท่านั้นที่ยอมรับการชำระภาษีด้วยสกุลเงินดิจิทัล
Reference : Cointelegraph