QED Protocol และ Nexus สองผู้พัฒนาบล็อกเชน กำลังเตรียมเปิดตัวโซลูชัน Layer-2 (L2) ใหม่ ที่จะทำให้ Dogecoin รองรับสมาร์ทคอนแทรคได้ โดยมีการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา
โซลูชัน L2 นี้จะใช้เทคโนโลยี zero-knowledge virtual machine (zkVM) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ Dogecoin ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่เก่าแก่ที่สุดและได้รับความนิยมสูงสุด สามารถแข่งขันในโลกของสมาร์ทคอนแทรคกับบล็อกเชนยักษ์ใหญ่อย่าง Ethereum และ Solana ได้
Dogecoin ปัจจุบันทำงานบนระบบ Proof-of-Work (PoW) คล้ายกับ Bitcoin แต่ใช้การตรวจสอบธุรกรรมที่ใช้พลังงานน้อยกว่า และไม่มีการกำหนดจำนวนเหรียญสูงสุด อย่างไรก็ตาม Dogecoin ยังไม่รองรับการทำงานของสมาร์ทคอนแทรค ซึ่งการมาของ zkVM นี้จะช่วยให้ Dogecoin “แข็งแกร่งกว่าใคร” ตามที่ QED และ Nexus กล่าวไว้
ในปี 2024 ตลาดมีมคอยน์ถือเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่เติบโตเร็วที่สุดในวงการคริปโต โดยแพลตฟอร์มสมาร์ทคอนแทรคที่รองรับมีมคอยน์นั้นมีความสามารถในการสร้างกำไรได้สูง เช่น Pump.fun ของ Solana ที่มียอดรายได้เกิน 100 ล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
zkVM ของ Dogecoin จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพสูงบนเครือข่าย Dogecoin ไม่ว่าจะเป็น decentralized exchanges (DEXs) หรือ NFTs ก็สามารถทำได้
Dogecoin ถูกสร้างขึ้นในปี 2013 เพื่อเสียดสี Bitcoin แต่ปัจจุบัน Dogecoin มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ราว 17 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าเป็นมีมคอยน์ตัวแรกที่ประสบความสำเร็จ และยังถูกใช้งานสำหรับการจ่ายเงินขนาดเล็กหรือให้ทิปอีกด้วย
QED Protocol เคยพัฒนาโซลูชัน zkVM บนเครือข่าย Bitcoin เพื่อรองรับสมาร์ทคอนแทรคและการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว ส่วน Nexus นั้นเป็นผู้ดำเนินการเครือข่าย Nexus zkVM ซึ่งเป็นเครือข่ายแบบโมดูลาร์ที่ใช้เทคโนโลยี zero-knowledge proofs
การพัฒนาโซลูชันบนบล็อกเชนที่ใช้ PoW เช่น Bitcoin กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยข้อมูลจาก DefiLlama ระบุว่า มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) บน Layer-2 ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
Daniel Marin, CEO ของ Nexus กล่าวว่า “สิ่งที่เราทำกับ Dogecoin ในครั้งนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับระบบบล็อกเชนอื่นๆ ได้อีก…ต้องขอบคุณความก้าวหน้าของเทคโนโลยี zero-knowledge”
Reference : Cointelegraph