Ford และ Toyota ยังคงเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ใช้บล็อกเชน โดยมีรายงานว่าทั้งสองบริษัทยื่นจดสิทธิบัตรใหม่หลายฉบับในไตรมาสที่ 2 ปี 2024
จากข้อมูลล่าสุดพบว่า Ford และ Toyota ได้ยื่นจดสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนรวมกันถึง 43 ฉบับในไตรมาสนี้ แม้ว่าจำนวนสิทธิบัตรในอุตสาหกรรมจะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก แต่ทั้งสองบริษัทยังคงขยายการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดย Ford เพิ่มจาก 3 ฉบับในไตรมาสแรกเป็น 14 ฉบับในไตรมาสที่ 2 ส่วน Toyota ยื่นจดสิทธิบัตรถึง 29 ฉบับจาก 25 ฉบับในช่วงเดียวกัน
บล็อกเชนกับอุตสาหกรรมยานยนต์
สิทธิบัตรที่ Ford และ Toyota ยื่นไว้เกี่ยวข้องกับการใช้บล็อกเชนในหลายแง่มุมของอุตสาหกรรมยานยนต์ Ford เองได้พัฒนาระบบที่ใช้บล็อกเชนในการจัดการข้อมูลกรรมสิทธิ์ยานพาหนะ ซึ่งสามารถบันทึกการเปลี่ยนแปลงเจ้าของแบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำผ่านสมาร์ทคอนแทรค ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์เป็นเรื่องง่ายขึ้น
ขณะเดียวกัน Toyota ก็กำลังพัฒนาระบบจัดการ NFT ที่เชื่อมโยงกับยานพาหนะ โดยเฉพาะสำหรับการจัดเก็บยานพาหนะในคลังสินค้าของตัวแทนจำหน่าย เพื่อให้ข้อมูลการจัดเก็บสะท้อนบนบล็อกเชนได้อย่างถูกต้อง
เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ
Ford และ Toyota ได้ปรับกลยุทธ์โดยหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี “ผู้ช่วยขับขี่” มากกว่าการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ไร้คนขับยังคงมีความหวัง แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีอุปสรรคที่ต้องแก้ไขก่อนที่รถไร้คนขับจะกลายเป็นจริงในเชิงพาณิชย์
การนำบล็อกเชนมาใช้ในโครงสร้างพื้นฐานของเมือง อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับเดินหน้าไปได้เร็วขึ้น ทั้ง Ford และ Toyota มองว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในอนาคต
Reference : Cointelegraph
