แพลตฟอร์มสตรีมเพลงกระจายศูนย์ Tune.fm ได้ประกาศเมื่อวันที่ 12 กันยายน ว่าพวกเขาได้รับเงินลงทุนใหม่มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์จาก Global Emerging Markets ทำให้ยอดรวมของเงินทุนตอนนี้อยู่ที่ 80 ล้านดอลลาร์

เงินลงทุนรอบนี้จะถูกนำไปเสริมสภาพคล่องให้กับโทเค็น JAM ที่ใช้เป็นรางวัลให้กับศิลปินและผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม Tune.fm นักลงทุนเดิมที่เคยเข้าร่วมทุนกับแพลตฟอร์มนี้ ได้แก่ LDA Capital, Alpha Token Capital, Block Alpha, Animoca Brands, The HBAR Foundation และ GDA Capital

Tune.fm เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการสตรีมเพลง พร้อมกับระบบตลาด NFT ที่ผสานรวมอยู่ภายใน ศิลปินจะได้รับค่าตอบแทนในรูปแบบไมโครเพย์เมนท์ตามจำนวนวินาทีที่เพลงของพวกเขาถูกเล่น ในขณะที่ผู้ใช้งานสามารถสะสมโทเค็นได้จากการฟังเพลงใหม่ๆ ที่ถูกโปรโมทผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนจาก Hedera

“ผู้ใช้งานสามารถสมัครบัญชีและเริ่มฟังเพลงได้ทันที โดยไม่ต้องมีวอลเล็ตของบุคคลที่สามมาก่อน” ตัวแทนของ Tune.fm ให้ข้อมูลกับ Cointelegraph โดยระบุว่าเมื่อเข้าร่วมแพลตฟอร์ม ระบบจะสร้างบล็อกเชนวอลเล็ตให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับคริปโต

นอกจากนี้ ยังมีหลายโปรเจกต์ที่กำลังผสมผสานบล็อกเชนเข้ากับวงการบันเทิง เช่น Royal ที่ให้แฟนเพลงสามารถร่วมเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงได้ผ่านการซื้อ NFT แพลตฟอร์มนี้ได้รับการสนับสนุนจาก a16z และมีศิลปินอย่าง Nas ที่เคยปล่อย NFT ในปี 2022

วงการเพลงสตรีมมิ่งทั่วโลกเองก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจาก Statista คาดการณ์ว่าตลาดสตรีมเพลงจะมีมูลค่าสูงถึง 34 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027

อย่างไรก็ตาม Tune.fm ระบุว่า “ปัญหาของแพลตฟอร์มสตรีมเพลงในปัจจุบันคือ บริษัทใหญ่ๆ กินส่วนแบ่งกำไรไปมาก ทำให้ศิลปินได้รับผลตอบแทนน้อย”

สำหรับ Spotify ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดสตรีมมิ่งนั้น ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดราว 66.71 พันล้านดอลลาร์ โดยรายงานระบุว่าพวกเขาจ่ายศิลปินเฉลี่ย 0.003 ดอลลาร์ ถึง 0.004 ดอลลาร์ต่อการสตรีม 1 ครั้ง และรายได้จะเริ่มนับหลังจากที่เพลงมียอดสตรีมถึง 1,000 ครั้งในช่วงเวลา 12 เดือน

Reference : Cointelegraph