เหลืออีกแค่ 60 กว่าวันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงการเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมา มูลค่าของ Bitcoin จะปรับตัวสูงขึ้นจริง ๆ ก็ต่อเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้วและมีผู้ชนะอย่างชัดเจน
เมื่อเราย้อนดูตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2020 จะเห็นได้ว่า Bitcoin มีการตอบสนองต่อการเลือกตั้งของสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง
วันที่ 1 กันยายน 2024 ราคา Bitcoin (BTC) แตะระดับต่ำสุดในวันนั้นที่ 57,230 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกับตลาดขาขึ้น หลายคนก็คาดเดาว่าผลลัพธ์ของการเลือกตั้งอาจส่งผลต่อมูลค่าของ BTC อย่างมาก
เช่น ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดออกมาบอกว่า Bitcoin อาจพุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์ก่อนการเลือกตั้ง และอาจพุ่งสูงถึง 150,000 ดอลลาร์ถ้าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยอีกครั้ง
ถ้าเราย้อนดูประวัติราคาของ Bitcoin หลังการเลือกตั้งปี 2016 และ 2020 จะเห็นได้ชัดว่าราคาของ BTC เพิ่มขึ้นแรงหลังการเลือกตั้ง แต่จุดสูงสุดของแต่ละรอบตลาดขาขึ้นเกิดขึ้นประมาณหนึ่งปีหลังการเลือกตั้ง อย่างในปี 2016 ราคาของ BTC พุ่งสูงสุดในเดือนธันวาคม 2017 และในปี 2021 ราคาพุ่งสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน
ตัวอย่างเช่น วันที่ 5 พฤศจิกายน 2016 ราคาของ BTC อยู่ที่ 703 ดอลลาร์ต่อเหรียญ แต่พอถึงสิ้นปี 2017 ราคาพุ่งเกือบแตะ 20,000 ดอลลาร์ ส่วนวันที่ 5 พฤศจิกายน 2020 ราคาของ BTC อยู่ที่ 15,579 ดอลลาร์ และในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 ราคาพุ่งใกล้ถึง 69,000 ดอลลาร์
ถ้าย้อนกลับไปดูรอบตลาดขาขึ้นปี 2013 วันที่ 5 พฤศจิกายน 2012 ราคาของ BTC อยู่ที่แค่ 10.80 ดอลลาร์ต่อเหรียญ และในเดือนธันวาคม 2013 ราคาก็พุ่งทะลุ 1,250 ดอลลาร์ต่อเหรียญ แม้ว่าเหตุการณ์ในอดีตอาจจะไม่ซ้ำเดิมเป๊ะๆ แต่ก็สะท้อนรูปแบบเดิมๆ ที่คุ้นเคยอยู่บ่อยครั้ง แต่รอบนี้ก็มีความแตกต่างไปบ้าง
ไม่เหมือนกับรอบก่อน ๆ ที่ BTC มักจะพุ่งจากจุดต่ำในช่วงเลือกตั้ง แต่รอบนี้ BTC ได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่มากกว่า 73,700 ดอลลาร์ต่อเหรียญไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งถือเป็นความแตกต่างจากตลาดขาขึ้นช่วงเลือกตั้งในอดีต
อีก 60 กว่าวันก่อนถึงวันเลือกตั้ง มูลค่า BTC ลดลง 21% จากจุดสูงสุด นี่อาจเป็นสัญญาณว่าผลลัพธ์ของการเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาด BTC อย่างมาก ต้องรอดูกันต่อไปว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนเดิมหรือไม่
Reference : Bitcoin News
