ความสำเร็จของ Bitcoin และการมาของ Altcoin
Bitcoin ได้ประสบความสำเร็จในการสร้างมูลค่ามหาศาล จนทำให้มีการเกิดขึ้นของเหรียญคริปโตอื่นๆ ตามมาอย่างมากมาย บางเหรียญมีความตั้งใจที่จะนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ด้านการเงินอย่างแท้จริง ในขณะที่บางเหรียญก็สร้างเพื่อมาหลอกลวงโดยอาศัยชื่อเสียงของ Bitcoin เพื่อดึงดูดนักลงทุนเพียงเท่านั้น
เหรียญคริปโตที่สร้างตามหลัง Bitcoin เหล่านี้มักถูกเรียกว่า Altcoins ซึ่งดูเหมือนว่าจะถูกสร้างมาเพื่อเป็นคู่แข่งกับ Bitcoin แต่ในความเป็นจริง Bitcoin มีคุณสมบัติพิเศษบางอย่างที่ Altcoins ไม่สามารถเลียนแบบได้ คุณสมบัติเหล่านี้ได้แก่ Network effect, Lindy effects และความน่าเชื่อถือ รวมถึงนโยบายการเงินที่มั่นคงและไม่เปลี่ยนแปลง
.
อะไรที่ทำให้ Bitcoin แตกต่างจากเหรียญอื่น
Network effects
ในฐานะคริปโตเคอร์เรนซีแรกที่ประสบความสำเร็จ Bitcoin ได้รับประโยชน์จากการเป็นผู้ริเริ่ม (first-mover advantage) ซึ่งได้ดึงดูดนักพัฒนาที่มีความสามารถและสร้างคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่และหลากหลายขึ้นตลอด 12 ปีที่ผ่านมา
มีโหนดหลายหมื่นโหนดทั่วโลกที่เชื่อมต่อกันเพื่อสร้างเครือข่าย Bitcoin ซึ่งใหญ่กว่าเหรียญดิจิทัลอื่นๆ เมื่อเทียบกับ แฮช มูลค่าตลาด หรือปริมาณการซื้อขาย ความเป็นที่รู้จักนี้ทำให้ Bitcoin มีชื่อเสียงแม้ว่า Altcoins อื่นจะมีชื่อและโลโก้ที่คล้ายคลึงกันก็ตาม
Lindy effects
Bitcoin ทำงานไม่เคยหยุดตั้งแต่ปี 2013 ต่างจากเทคโนโลยีของบริษัทหรือองค์กรใดๆที่เคยมีมา Bitcoin เคยผ่านการโจมตีจากภายนอก ความพยายามในการแบนจากรัฐบาล และข้อพิพาทภายในเกี่ยวกับทิศทางของโปรโตคอล
Bitcoin สามารถทนต่อความผันผวนของราคามาได้ตลอด และความผันผวนของมันก็ลดลงตามเวลา นอกจากนี้ Bitcoin เป็นคริปโตเคอร์เรนซีเดียวที่มีระยะเวลาการใช้งานมากกว่าสิบปี การที่ Bitcoin ยืนยาวมาได้ขนาดนี้ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับนักลงทุน และนักพัฒนา
ความคงทน
ตลอดระยะเวลาดำเนินการของ Bitcoin มันได้เติบโตและมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ในช่วงแรก Bitcoin มีเจ้าของที่ชัดเจน (Satoshi Nakamoto) ซึ่งเป็นจุดเสี่ยง แต่เมื่อเวลาผ่านไป Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin ได้ส่งต่อการควบคุมของโครงการไปยังกลุ่มนักพัฒนารุ่นแรกที่มีการกระจายอำนาจมากขึ้น
ซึ่งในปัจจุบัน เครือข่าย Bitcoin ประกอบด้วยโหนดหลายหมื่นโหนดและนักขุดจำนวนมาก จนทำให้ Bitcoin ไม่สามารถถูกปิดตัวลงได้โดยรัฐบาลหรือองค์กรใดๆ Bitcoin ยังมีการปรับปรุงด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น การแก้ปัญหาการปรับขนาดและความเป็นส่วนตัวที่กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
.
ทำไม Altcoin ที่สร้างมาทีหลังถึงไม่สามารถแทนที่ Bitcoin ได้
Bitcoin มีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในสายตาของนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน และถูกสร้างขึ้นบนฐานข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์
Network effect ของ Bitcoin คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญ Network effect ของเงินนั้นสร้างผลกระทบมากกว่า Network effect ของโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก เพราะหากเราเลือกใช้โซเชียลมีเดียที่ผิด เราอาจรู้สึกเบื่อ แต่แต่หากเราเลือกเก็บเงินผิด เราอาจจะหมดตัว ในทางกลับกัน การเลือกเก็บเงินที่ถูกต้องตั้งแต่แรกอาจนำไปสู่ผลตอบแทนที่มหาศาล
สิ่งที่ทำให้ผู้ที่ถือ Bitcoin มีความมั่นใจมากว่า Altcoin จะไม่มาแทนที่ Bitcoin ก็คือนโยบายการเงินที่เป็นธรรมและไม่มีเปลี่ยนแปลง นี่เป็นลักษณะที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยเทคโนโลยีใดๆ
Bitcoin เป็นนวัตกรรมด้านการเงิน และเป็นนวัตกรรมด้านการทำธุรกรรม แต่มันไม่ได้เป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ซึ่งเงินและการทำธุรกรรมที่ดีต้องใช้คุณสมบัติที่ต่างกัน การทำธุรกรรมที่ดีควรจะเร็ว ราคาถูก และได้รับยอมรับโดยทั่วไป ส่วนเงินที่ดีนั้นต้องเป็นตัวเก็บค่าที่ดีได้ทุกเวลาและสถานที่ ซึ่ง Bitcoin ก็พยายามทำทั้งสองเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ให้ดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น รวมถึงคริปโตเหรียญอื่นๆด้วยเช่นกัน
นโยบายการเงินของ Bitcoin ถูกบังคับใช้โดยโหนดหลายหมื่นโหนดทั่วโลก แต่ละโหนดมีหน้าที่ยืนยันทุกธุรกรรมในเครือข่าย Bitcoin ซึ่งต่างจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่การจะเปลี่ยนนโยบายการเงินของ Bitcoin จะต้องโน้มน้าวให้ทุกโหนดในเครือข่ายเปลี่ยนกฎของตน ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้
.
Altcoins หายากจริงหรือไม่
คริปโตหลายเหรียญได้เลียนแบบการกำหนดจำนวนสูงสุดของอุปทาน Bitcoin แต่มีเพียง Bitcoin เท่านั้นที่สามารถเชื่อได้ว่าเป็นอุปทานสูงสุดที่แท้จริง เพราะ Altcoin หรือสกุลเงินใด ๆ ที่มีการรวมศูนย์จะไม่สามารถกำหนดจำนวนสูงสุดได้อย่างน่าเชื่อถือ เพราะผู้ที่มีอำนาจสามารถเปลี่ยนจำนวนสูงสุดนั้นได้ทุกเมื่อ
Reference : River.com