Bitcoin node (โหนดบิตคอยน์) คืออะไร

โหนดบิตคอยน์คือคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่ทำการ Run โปรแกรมของบิตคอยน์ และจัดเก็บข้อมูลของบล็อกเชนทั้งหมด โหนดคอยตรวจสอบทุกบล็อกและทุกธุรกรรมก่อนที่จะทำการเพิ่มลงในบล็อกเชน ดังนั้นโหนดจึงทำหน้าที่เป็นเหมือนผู้ดูแลของเครือข่ายบิตคอยน์ เป็นผู้ตั้งกฎและบังคับใช้กฎว่าธุรกรรมและบล็อกใดถูกต้องไม่ถูกต้อง

โหนดบิตคอยน์จะแชร์บล็อกและธุรกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นร่วมกัน เพื่อให้แต่ละโหนดมีข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดของบล็อกเชนอยู่เสมอ การแชร์นี้เกิดขึ้นผ่านเครือข่าย Peer-to-peer หมายความว่าแต่ละโหนดจะเชื่อมต่อกันโดยตรงกับโหนดอื่นๆ ซึ่งโหนดส่วนใหญ่เชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต บางโหนดก็เชื่อมต่อผ่านดาวเทียม หรือแม้แต่วิทยุ การเชื่อมต่อกันระหว่างโหนดโดยตรงนี้ช่วยให้แน่ใจว่าไม่มีหน่วยงานหรือองค์กรใดที่ควบคุมบล็อกเชน

Bitcoin node มีจำนวนเท่าใด

ไม่มีวิธีการที่ชัดเจนในการนับจำนวนโหนดบิตคอยน์ที่มีอยู่ เนื่องจากโหนดบิตคอยน์สามารถทำงานแบบไม่เปิดเผยตัว ทำการรวบรวมข้อมูลบล็อกและธุรกรรมโดยไม่ต้องประกาศการมีตัวตนกับโหนดที่เหลือ นอกจากนี้โหนดบิตคอยน์สามารถที่จะออกหรือเข้าร่วมเครือข่ายได้ตามต้องการ

แต่ก็มีวิธีการในการประมาณจำนวนโหนดบิตคอยน์ที่เปิดต่อสาธารณะ หนึ่งในวิธีประมาณที่นิยมคือวิธีที่ทำโดยผู้พัฒนา Bitcoin Core ชื่อว่า Luke Dashjr เขาได้ประมาณว่ามีโหนดบิตคอยน์ที่ทำงานอยู่มากกว่า 47,000 โหนด

ควร Run โหนดบิตคอยน์ไหม

เนื่องจากในปัจจุบันมีโหนดบิตคอยน์เพียงพอกับเครือข่ายแล้ว การรันโหนดบิตคอยน์จะเป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าทำเพื่อเครือข่ายบิตคอยน์ การรันโหนดบิตคอยน์ด้วยตัวเราเองช่วยให้เราสามารถรักษาความเป็นส่วนตัวและเพิ่มความปลอดภัยได้ ด้วยการทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีใครจัดการหรือเปลี่ยนแปลงกฎของเครือข่ายบิตคอยน์ได้ เพราะเราเป็นหนึ่งโหนดที่มีอำนาจในการตัดสินใจ

ประโยชน์ด้านความเป็นส่วนตัว

เมื่อเรารันโหนดบิตคอยน์แล้ว เราสามารถสร้างและประกาศธุรกรรมได้โดยตรงจากโหนดของเรา ซึ่งไม่จำเป็นต้องต้องใช้บริการที่อาจเป็นอันตรายต่อข้อมูลส่วนตัว เมื่อเป็นโหนดแล้วไม่จำเป็นต้องใช้ Block Explorer เพื่อตรวจสอบสถานะธุรกรรมที่เราทำ เพราะ Block Explorer อนุญาตให้บุคคลที่สามสามารถติดตามประวัติการทำธุรกรรมและเชื่อมโยงไปยังที่อยู่ IP ของเรา ทำให้ตำแหน่งที่อยู่ จำนวนบิตคอยน์ของเราถูกเปิดเผยได้

ประโยชน์ด้านความปลอดภัย

การใช้โหนดเพื่อสร้างธุรกรรมยังสามารถเพิ่มความปลอดภัยของเราได้ด้วยการลดความจำเป็นในการเปิดเผย private keys บนอินเทอร์เน็ต เพราะมีวิธีการทำธุรกรรมที่เรียกว่า ธุรกรรมที่ลงนามบางส่วน – Partially Signed Bitcoin Transaction (PSBT) ทำให้สามารถลงนามทำธุรกรรมโดยใช้กระเป๋าเงินใบอื่นได้ กระเป๋าเงินนี้สามารถตัดการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อเราลงนามในธุรกรรมแล้ว เราสามารถใช้โหนดบิตคอยน์เพื่อประกาศธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้ วิธีนี้จะเพิ่มความปลอดภัยของเราโดยแยก private keys ออกจากการเชื่อมต่อภายนอกโดยสิ้นเชิง

การตัดบุคคลที่สาม

การรันโหนดเราไม่จำเป็นต้องพึ่งพาหรือเชื่อใจใครเลย เช่นโบรกเกอร์ Block Explorer หรือผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลของเรา เนื่องจากโหนดจะเก็บข้อมูลบล็อกเชนทั้งหมด เราสามารถตรวจสอบความถูกต้องด้วยตัวเอง หากมีคนพยายามสร้างบิตคอยน์เกินออกมา โหนดบิตคอยน์จะทำการปฏิเสธบล็อกดังกล่าวโดยอัตโนมัติว่าไม่ถูกต้อง ถ้าผู้ใช้งานคนไหนทำธุรกรรมที่ไม่ถูกต้องโหนดบิตคอยน์ก็จะปฏิเสธเช่นกัน

เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเครือข่าย

เครือข่ายของบิตคอยน์มีความโดดเด่นในเรื่องการกระจายอำนาจ เป็นเพราะว่ามีการกระจายโหนดและเครื่องขุดออกไปจำนวนมาก แต่ถ้าสมมติว่ามีเหตุการณ์ที่เครือข่ายบิตคอยน์ถูกโจมตี หรือรัฐบาลหลายประเทศพยายามปิดกั้นบิตคอยน์ด้วยการปิดทำการโหนดภายในประเทศ จำเป็นต้องมีโหนดเหลืออยู่เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบิตคอยน์จะทำงานต่อไป แปลว่าการรันโหนดเฉยๆก็ถือเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายบิตคอยน์

Reference : River.com