ในปัจจุบันมีคริปโทเคอร์เรนซีมากมายถูกสร้างออกมาสู่ตลาด แต่บิตคอยน์ที่เป็นต้นกำเนิดของคริปโทเคอร์เรนซียังคงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในด้านของ Market capitalization เมื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนของบิตคอยน์ต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซีโดยรวม นักเทรดจึงสังเกตเห็นรูปแบบบางอย่างของสภาวะตลาดที่เกิดขึ้นซ้ำๆ นักเทรดบางคนจึงใช้ BTC Dominance เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการเทรด โดยเชื่อว่า BTC Dominance จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของสภาวะตลาด

BTC Dominance และ Market capitalization (มูลค่าตลาด)

มูลค่าตลาดในมุมของคริปโทเคอร์เรนซีหมายถึงมูลค่าของเหรียญที่มีทั้งหมดในตลาด สำหรับบิตคอยน์ มูลค่าตลาดจะคำนวณโดยการคูณราคาปัจจุบันกับจำนวน BTC ทั้งหมดที่มีในปัจจุบัน

สูตรคำนวณ BTC Dominance

BTC Dominance = มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ / มูลค่าตลาดของคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมด

ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ BTC Dominance

การมาของ Altcoin

ก่อนที่คริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆนอกจากบิตคอยน์ (Altcoin) จะถูกสร้างมาเต็มตลาด ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ BTC Dominance จะมีสัดส่วนสูงกว่า 90% แต่ภายหลังที่ Altcoin ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานและนักลงทุนมากขึ้น ความสนใจจึงถูกกระจายจากบิตคอยน์ไปยังคริปโทเคอร์เรนซีตัวอื่นๆที่มีสิ่งดึงดูดใจมากมาย

ในขณะที่บิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกของการเงิน แต่คริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆนั้นตั้งเป้าพัฒนาในส่วนอื่นๆ เช่น เกม งานศิลปะ และบริการทางการเงิน ซึ่งแนวโน้มของคริปโทเคอร์เรนซีขึ้นอยู่กับกระแสของโลกปัจจุบัน เช่นมีช่วงหนึ่งที่ DeFi กำลังมาแรง มีแรงซื้อเข้ามาในคริปโทเคอร์เรนซีประเภทนี้จำนวนมาก จนทำให้ BTC Dominance มีสัดส่วนลดลงอยู่บ้าง

ในช่วงหลังที่ราคาของบิตคอยน์เริ่มนิ่งขึ้น ความสนใจของนักเทรดคริปโทเคอร์เรนซีที่ชื่นชอบในราคาที่ผันผวนจึงหันเหไปยังคริปโทเคอร์เรนซีเกิดใหม่ ที่มีราคาขึ้นลงอย่างรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งก็ส่งผลต่อ BTC Dominance ด้วยเช่นกัน

การเกิดขึ้นของ Stablecoin

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Stablecoin ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลกระทบต่อ BTC Dominance เพราะในช่วงตลาดขาลงหรือตลาดผันผวนหนัก ผู้คนจะใช้ Stablecoin เป็นที่เก็บเงินทุนในการเทรดในช่วงที่ราคาบิตคอยน์ตก เนื่องจาก Stablecoin ถูกออกแบบมาให้มีราคาคงที่เท่ากับ 1 ดอลลาร์ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อราคาบิตคอยน์อยู่ในช่วงขาลง ผู้คนก็จะขายบิตคอยน์มาถือ Stablecoin แทน โดยไม่จำเป็นขายออกมาเป็นเงินสดเลย และเมื่อเงินทุนไหลจากบิตคอยน์ไปสู่ Stablecoin ทำให้สัดส่วน BTC Dominance ลดลง

การเกิดขึ้นของคริปโทเคอร์เรนซีใหม่ๆ

บางครั้งเมื่อมีเหรียญใหม่เข้ามาสู่ตลาดอาจจะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ BTC Dominance ลดลง เปรียบเสมือนการต่อสู่ระหว่างบิตคอยน์กับคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆในตลาด ยิ่งถ้าหากมีคริปโทเคอร์เรนซีได้รับความนิยมพร้อมกันหลายๆตัว ก็จะส่งผลกระทบต่อ BTC Dominance อย่างหนัก แต่ส่วนใหญ่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป คริปโทเคอร์เรนซีบางตัวนอกเหนือจากบิตคอยน์มักจะเสื่อมความนิยมลง เงินทุนก็จะถูกย้ายกลับไปที่บิตคอยน์หรือออกจากตลาดไป ทำให้ BTC Dominance เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

BTC Dominance ในการเทรด

Wyckoff Method

Wyckoff Method ได้รับการพัฒนาในช่วงต้นทศวรรษ 1930 เป็นชุดหลักการที่ออกแบบมาสำหรับนักเทรดและนักลงทุนในตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ตัวอย่างหลักการเช่นหลักการเหตุและผล ที่สามารถนำไปปรับใช้กับ BTC Dominance ในการทำกำไร

นักเทรดและนักลงทุนจำนวนมากใช้ Wyckoff Method เพื่อระบุเทรนด์ของตลาด ใช้วิเคราะห์ความน่าจะเป็นในการกลับตัวของเทรนด์ Wyckoff Method จะแบ่งพฤติกรรมการเทรดออกเป็น 4 ช่วง ช่วงที่ 1 ช่วงสะสม ช่วงที่ 2 การเพิ่มราคา ช่วงที่ 3 การกระจาย ช่วงที่ 4 การปรับลด ซึ่งการระบุว่าเงินทุนมาจากไหนและเมื่อไรอาจมีความสำคัญสำหรับนักเทรดบางคนที่ต้องอาศัยจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการตัดสินใจเทรดหรือลงทุน ซึ่ง Wyckoff Method สามารถใช้ได้ในสถานการณ์เหล่านี้

 

ใช้ BTC Dominance เพื่อดูสภาวะของคริปโทเคอร์เรนซีตัวอื่นๆ

ด้วยจำนวน altcoin ที่เพิ่มขึ้นในตลาด จึงทำให้ BTC Dominance ลดลง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา altcoin บางตัวได้รับความนิยมมากขึ้น ส่งผลให้ market cap ของคริปโทเคอร์เรนซีอื่นๆนอกจากบิตคอยน์แซงหน้าบิตคอยน์ไป ซึ่งช่วงเวลาสั้นๆที่ alt coin มีมูลค่าสูงกว่าบิตคอยน์ จะเรียกว่า “ฤดูกาลของ altcoin” – (altcoin season) ภายใต้หลักการของ Wyckoff Method จะเกิดวัฏจักรของการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากบิตคอยน์ไปสู่ altcoin

เนื่องจาก altcoin มีแนวโน้มที่จะทำราคาได้ดีขึ้นในช่วงฤดูกาลของ altcoin และเห็นได้ว่า BTC Dominance จะลดลงในช่วงเวลานี้ ดั้งนั้นนักเทรดในบิตคอยน์และ altcoin สามารถดู BTC Dominance เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนของตนให้เหมาะสม

การใช้ BTC Dominance กับราคา Bitcoin ในปัจจุบัน

มีบางคนดูราคาของบิตคอยน์ควบคู่กับการดู BTC Dominance เพื่อช่วยตัดสินใจในการเทรด ถึงแม้มันอาจจะไม่ได้ผล 100% แต่เราสามารถจับทางบางอย่างจากมันได้

1. เมื่อราคาของบิตคอยน์และ BTC Dominance เพิ่มขึ้น อาจส่งสัญญาณถึงตลาดขาขึ้นที่มีศักยภาพ

2. เมื่อราคาของบิตคอยน์เพิ่มขึ้น แต่ BTC Dominance ลดลง อาจส่งสัญญาณถึงตลาดขาขึ้นของ altcoin

3. เมื่อราคาของบิตคอยน์ลดลง แต่ BTC Dominance เพิ่มขึ้น อาจส่งสัญญาณถึงตลาดขาลงของ altcoin

4. เมื่อราคาของบิตคอยน์ลดลง และ BTC Dominance ลดลง อาจส่งสัญญาณถึงตลาดขาลงที่อาจเกิดขึ้นต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมด

Reference : Binance Academy