ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ได้เสนอแนวคิดใหม่ในการต่อสู้กับการฟอกเงินผ่านสินทรัพย์คริปโต ที่เรียกว่า “คะแนนปฏิบัติตามมาตรการต่อต้านการฟอกเงิน (AML Compliance Score)” ซึ่งจะถูกประเมินจากประวัติการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน ก่อนที่เหรียญจะถูกแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด (off-ramp)

หลักการสำคัญคือ การให้คะแนนสินทรัพย์คริปโตแต่ละหน่วย—โดยอิงจาก UTXOs สำหรับ Bitcoin หรือจาก wallet ในกรณีของ stablecoins—เพื่อประเมินความเชื่อมโยงกับกิจกรรมผิดกฎหมาย คะแนนนี้จะถูกเรียกใช้งานเมื่อมีการติดต่อกับระบบธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เงินร้อนเข้ามายังระบบการเงินแบบถูกกฎหมาย และสร้างวัฒนธรรม “duty of care” ให้ผู้เล่นในตลาดคริปโตรู้สึกมีความรับผิดชอบมากขึ้น หากไม่ปฏิบัติตาม อาจถูกปรับหรือรับโทษจากหน่วยงานกำกับดูแล

BIS ระบุว่ากรอบการควบคุมแบบเดิมที่อาศัยธนาคารหรือคนกลาง มีประสิทธิภาพจำกัดเมื่อมาใช้กับระบบกระจายศูนย์ ซึ่งการให้คะแนนตามประวัติธุรกรรมบนบล็อกเชนถือเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าในการติดตามและตรวจสอบการกระทำที่น่าสงสัย อีกทั้งยังเสนอให้แพลตฟอร์ม off-ramp เช่น exchange หรือผู้ให้บริการจ่ายเงิน ต้องปฏิบัติตามระบบคะแนนนี้และตัดสินใจว่าจะให้ผ่านการทำรายการหรือไม่

นอกจากนี้ BIS ยังยกข้อมูลว่าตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา Stablecoins ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักที่อาชญากรใช้ โดยในปี 2024 สัดส่วนของธุรกรรมผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ stablecoins มาอยู่ที่ประมาณ 63% ซึ่งสูงกว่า Bitcoin โดยทำให้การกำหนดคะแนนความเสี่ยงและการควบคุมทาง compliance มีความสำคัญยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน

Reference: Cointelegraph