ข่าวล่าสุดชี้ให้เห็นถึงโอกาสผลักดันให้สถานการณ์สงครามในยูเครนบรรเทาลง ซึ่งมีผลอย่างชัดเจนต่อราคา Bitcoin ในปี 2025 การเคลื่อนไหวนี้มีพลังมากมาย ทั้งการไหลของเงินลงทุนเข้าสู่นโยบาย ETF ของ Bitcoin และทิศทางอารมณ์นักลงทุนโดยรวมหรือที่เรียกว่า “risk sentiment” — ทั้งสองปัจจัยนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันทีตามความคืบหน้าของการเจรจาสันติภาพ

ถอยกลับไปดูความเคลื่อนไหวของ Bitcoin เมื่อสงครามเริ่มต้นในปี 2022 จะเห็นว่า Bitcoin ร่วงทันทีเกือบ 8% แต่หลังจากนั้นกลับฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยขึ้นมาสูงกว่าระดับก่อนสงครามถึง 27% ภายในเวลาไม่ถึงเดือน การฟื้นตัวนี้มาจากกลไกสองสามอย่างหลัก ได้แก่ นักลงทุนปิดสถานะ Short คนที่ได้รับผลกระทบจากการควบคุมเงินและธนาคารชำระเงินใต้ดินหันมาใช้ stablecoins เช่น USDT/USDC ซึ่งเป็นทางเข้าไปสู่ตลาด Bitcoin และมี demand เพิ่มขึ้นทันที

ผู้วิเคราะห์แยกภาพอนาคตออกเป็นสามกรณีหลัก:

  • กรณีสันติภาพที่มั่นคง – ราคาพลังงานลดลง ช่วยลดเงินเฟ้อและเปิดทางให้ธนาคารกลางปรับลดดอกเบี้ย บรรยากาศตลาดกลับมาสดใส ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้ามากขึ้นผ่าน ETF และอาจเห็นราคากระโดดขึ้น
  • กรณีสันติภาพไม่มั่นคง – สงคราวชั่วคราวซึ่งอาจไม่ช่วยให้ธนาคารกลางผ่อนคลาย ทำให้ Bitcoin เคลื่อนไหวอิงกับข่าวเฉพาะในวงการคริปโต เช่น เงินเข้า ETF หรือกิจกรรมหลัง Halving มากกว่าเหตุการณ์สงครามโดยตรง
  • กรณีเจรจาล้มเหลวและสงครามยืดเยื้อ – ราคามีโอกาสดิ่งตามตลาดหุ้นในช่วงแรก แต่หลังจากความตื่นตระหนกคลี่คลาย ความต้องการ stablecoins จะสูงและบางส่วนอาจไหลเข้าสู่ Bitcoin ในช่วงหลัง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในปี 2022

เพื่อจับทิศทางราคาได้ทันท่วงที นักวิเคราะห์แนะนำให้จับตาตัวชี้วัดสำคัญ อย่างเช่นอัตราดอกเบี้ยจริง (real rates), ดอลลาร์สหรัฐ, กระแสเงินไหลเข้าออก ETF, ตลาด options ที่สะท้อนความเสี่ยง, และ premium ของ stablecoin เช่น USDT ที่มักเด้งขึ้นช่วงตลาดผันผวน

Reference: Cointelegraph