แนวคิดภาพรวม

เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัม (quantum computers) มีศักยภาพในการถอดรหัส private key จาก public key ของบิตคอยน์ โดยเฉพาะใน Wallet แบบเก่า เช่น P2PK หรือ P2PKH ที่เคย reuse public key และเปิดเผยข้อมูลบนเครือข่าย การที่ private key เหล่านี้ถูกถอดรหัสได้ หมายถึงเหรียญที่ถูกลืมหรือเข้าถึงไม่ได้อาจถูกนำกลับมาใช้งานใหม่ได้โดยผู้ไม่หวังดี หรือแม้แต่ผู้ใช้งานที่เคยสูญเสียการเข้าถึง

กระบวนการเกิดขึ้นอย่างไร

บิตคอยน์ใช้ระบบการเข้ารหัสแบบ ECDSA (Elliptic Curve Digital Signature Algorithm) ซึ่งแม้จะปลอดภัยในระบบทั่วไป แต่มีจุดอ่อนต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัม

เมื่อมีการเปิดเผย public key ผ่านธุรกรรม (เช่น การส่งเหรียญจาก address เดิม) จะมีหน้าต่างเวลาสั้น ๆ (โดยเฉลี่ย 10 นาที) ที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถใช้โจมตีและถอดรหัสเพื่อขโมยเหรียญได้

การใช้ Shor’s algorithm บนระบบควอนตัมที่ทรงพลังมากพอ สามารถแยกตัวประกอบของค่าในระบบ ECDSA และเข้าถึง private key ได้

บิตคอยน์สูญหายจำนวนเท่าใดอาจกลับมา?

มีการประเมินว่าบิตคอยน์ที่ “สูญหายจริง” อยู่ที่ประมาณ 2.3–3.7 ล้าน BTC หรือคิดเป็น 11–18% ของอุปทานทั้งหมด

หากสามารถปลดล็อก wallet ของ Satoshi Nakamoto (ซึ่งเชื่อว่าถืออยู่ประมาณ 1 ล้าน BTC) ได้สำเร็จ อาจเกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในตลาด

ผู้บริหารในวงการ เช่น ซีอีโอของ Tether ระบุว่า หากคอมพิวเตอร์ควอนตัมพัฒนาไปไกลพอ บิตคอยน์ที่สูญหายทั้งหมดอาจถูกเรียกกลับเข้าสู่ระบบ

ประเด็นด้านจริยธรรมและผลกระทบทางเศรษฐกิจ

การคืนชีพบิตคอยน์ที่สูญหายจะลดความหายาก (scarcity) ของ BTC ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนมูลค่า

ผู้เชี่ยวชาญบางคนเสนอว่าควร “เผาเหรียญที่ไม่สามารถเข้าถึงได้” อย่างถาวร เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบ อีกมุมมองหนึ่งเสนอให้มีการแจกจ่ายเหรียญที่คืนชีพใหม่ให้กับสาธารณะ เพื่อความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ

วิธีป้องกันสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

หลีกเลี่ยงการ reuse address และใช้ Wallet ที่ไม่เปิดเผย public key หลังจากใช้งานครั้งแรก เช่น SegWit หรือ Taproot

ใช้ address ใหม่ทุกครั้งเมื่อทำธุรกรรม เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนไปใช้ post-quantum cryptographic algorithms ที่ออกแบบมาสำหรับโลกที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมกลายเป็นเรื่องจริง

สถานะปัจจุบันของความเสี่ยง

ในปี 2025 นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เทคโนโลยีควอนตัมยังไม่อยู่ในระดับที่สามารถโจมตีระบบของบิตคอยน์ได้จริง อย่างไรก็ตาม บริษัทการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น BlackRock ระบุในเอกสารว่าควอนตัมเป็นหนึ่งในความเสี่ยงระยะยาวที่ต้องจับตา

Reference: Cointelegraph