ในเวลาแค่สองสัปดาห์ นักเทรดนิรนามคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนเงินลงทุนเพียง 6,800 ดอลลาร์ (ประมาณ 248,000 บาท) ให้กลายเป็น 1.5 ล้านดอลลาร์ (ราว 54.8 ล้านบาท) ได้สำเร็จ — โดยไม่ต้องไปยุ่งกับเหรียญมีมหรือเสี่ยงทายว่าราคาจะขึ้นหรือลง
เขาทำได้โดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ “Market Making แบบความถี่สูง (High-Frequency Trading) ที่มีโครงสร้าง Delta-Neutral” ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ได้เปิดรับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาเหรียญเลยแม้แต่น้อย
กลยุทธ์ Delta-Neutral คืออะไร?
Delta-Neutral เป็นแนวทางที่ตั้งใจไม่ให้พอร์ตของเรากำไรหรือขาดทุนจากการที่ราคาเหรียญเปลี่ยนแปลง ซึ่งต่างจากเทรดทั่วไปที่ถ้าราคาขึ้นเรากำไร ถ้าราคาตกเราขาดทุน นักเทรดคนนี้กลับหลีกเลี่ยงตรงนั้นหมดเลย
เขาไม่ได้ถือเหรียญแบบนักลงทุน แต่ใช้บอตโพสต์คำสั่งซื้อหรือขาย “ฝั่งเดียว” (เรียกว่า One-sided quoting) เพื่อช่วยให้แพลตฟอร์มมีสภาพคล่อง แล้วรับค่าตอบแทนในรูปแบบ “Maker Fee Rebate” หรือค่าธรรมเนียมคืนเมื่อมีคนมาจับคู่คำสั่งกับเขา
แม้ค่าธรรมเนียมจะน้อยมาก (แค่ 0.003% หรือ $0.03 ต่อการเทรด $1,000) แต่เพราะเขาเทรดด้วยปริมาณมหาศาล — กว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ใน 2 สัปดาห์ — รายได้จาก rebate เพียงอย่างเดียวก็พุ่งไปแตะ $420,000 แล้ว
ทำที่ไหน?
เขาทำทั้งหมดนี้บนแพลตฟอร์มเทรดแบบ perpetual decentralized ที่ชื่อ Hyperliquid ซึ่งเป็นที่รู้จักเฉพาะในกลุ่มนักเทรดสายเทคนิค ในช่วงกลางปี 2025 มีคนเริ่มสังเกตว่า Wallet ที่ชื่อ 0x6f90…336a กลายเป็นผู้ให้สภาพคล่องหลักในตลาด SOL และเหรียญอื่น ๆ โดยไม่มีพฤติกรรมเก็งราคาเลย
ไม่เสี่ยงขาดทุนจากความผันผวน?
ไม่ขาดทุนจากความผันผวน เพราะเขาจงใจออกแบบกลยุทธ์ให้ไม่มีการถือครองเหรียญแบบ Spot หรือการ Staking แต่ใช้เฉพาะการเทรดสัญญา Futures แบบไม่มีวันหมดอายุ (Perpetual Futures) เท่านั้น เพื่อให้ทุกการเทรดเป็นแบบ “โครงสร้างเป็นกลาง” (structurally neutral)
เขายังควบคุมระดับความเสี่ยงได้ดีเยี่ยม — ระหว่างเทรดกว่า 20.6 พันล้านดอลลาร์ เขายังจำกัดการถือสัญญาแบบเปิดไม่ให้เกิน $100,000 และขาดทุนสะสมไม่เคยเกิน 6.48%
กลยุทธ์นี้ทำได้ยังไง?
- บอตโพสต์คำสั่งฝั่งเดียว: ไม่โพสต์ทั้งซื้อและขายพร้อมกัน เพื่อลดความเสี่ยงในการถือเหรียญ
- สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม maker rebate: ระบบให้เงินคืนเมื่อมีคนมากดซื้อหรือขายที่คำสั่งเขาตั้งไว้
- ใช้บอตเทรดความเร็วสูง (High-Frequency Bots): ทำธุรกรรมหลายร้อยรอบต่อวัน ต้องเชื่อมต่อกับระบบแลกเปลี่ยนแบบความหน่วงต่ำ (low-latency) และใช้เครื่องในศูนย์ข้อมูลใกล้เซิร์ฟเวอร์ (colocated server)
ทำไมคนทั่วไปเลียนแบบไม่ได้?
เพราะต้องมี:
- ทุนทางเทคนิค เช่น การเขียนโค้ดระบบเทรดอัตโนมัติ
- ความเร็วระดับมิลลิวินาที
- การเข้าถึงศูนย์ข้อมูลระดับสูง
- เข้าใจกลไกตลาดเชิงลึก
นี่คือเหตุผลที่แม้กำไรจะดูเว่อร์ แต่จริง ๆ มันมาจากการวางโครงสร้างเชิงวิศวกรรมอย่างดีเยี่ยม ไม่ใช่แค่โชคหรือดวง
Reference: Cointelegraph