วานูอาตู: ซื้อสัญชาติด้วยคริปโทโดยตรงผ่านตัวแทน

วานูอาตูเสนอโปรแกรม “การบริจาคเพื่อพัฒนา” (Development Support Program – DSP) ซึ่งสามารถรับสัญชาติภายใน 30–60 วัน ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ $130,000 หรือราว 4.74 ล้านบาท โดยแม้รัฐบาลจะไม่รับคริปโทตรงๆ แต่เอเจนซี่ที่ได้รับอนุญาตสามารถรับ Bitcoin หรือ Stablecoin จากคุณ แปลงเป็นเงินตราท้องถิ่นและดำเนินการให้ทั้งหมด

ข้อดีของวานูอาตู: ไม่ต้องเข้าประเทศ, ไม่ต้องสอบภาษา, ไม่ต้องพำนัก, ไม่เสียภาษีส่วนบุคคล, และถือสองสัญชาติได้

โดมินิกา และ เซนต์ลูเซีย: พาสปอร์ตแคริบเบียนแบบใช้คริปโทผ่านตัวแทน

  • โดมินิกา: บริจาค $200,000 ขึ้นไป (ประมาณ 7.3 ล้านบาท)
  • เซนต์ลูเซีย: บริจาค $240,000 หรือ ลงทุนอสังหาฯ $300,000 (ประมาณ 8.76 – 10.95 ล้านบาท)

สามารถชำระด้วย Bitcoin, USDT ผ่านตัวแทนอย่าง Apex Capital Partners หรือ Citizenship Bay ที่รับคริปโทแล้วแปลงให้ตรงตามกฎหมาย

ข้อดี: ได้พาสปอร์ตที่เข้ายุโรป/อังกฤษได้, รวมครอบครัวได้, ไม่ต้องพำนัก, ไม่ต้องสอบ

โปรตุเกส: วีซ่าทองคำแบบกองทุนลงทุนคริปโท

หลังปี 2023 โปรตุเกสเปลี่ยนนโยบายวีซ่าทองคำให้เน้น “กองทุนที่ได้รับอนุญาต” แทนอสังหาริมทรัพย์ โดยต้องลงทุน 500,000 ยูโรขึ้นไป (ประมาณ 19.5 ล้านบาท) ซึ่งสามารถลงทุนผ่าน “กองทุนที่มีการถือ BTC หรือ ETF ที่เกี่ยวข้อง” ผ่านช่องทางทางอ้อม

ข้อดี: ใช้เวลาอยู่แค่ 7 วัน/ปี, ภาษีคริปโทต่ำมาก, มีเส้นทางสู่สัญชาติยุโรปภายใน 5 ปี (แต่กำลังพิจารณาขยายเป็น 10 ปี)

เอลซัลวาดอร์: พาสปอร์ตคริปโทแบบเต็มรูปแบบ

“Freedom Visa” เปิดตัวปลายปี 2023 รับผู้ลงทุน BTC หรือ USDT มูลค่า $1,000,000 (ประมาณ 36.5 ล้านบาท) โดยจ่ายมัดจำเพียง $999 ก่อนสมัคร จากนั้นชำระส่วนที่เหลือเมื่อผ่านการอนุมัติ ใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์ก็ได้ถิ่นพำนัก และนำไปสู่การได้สัญชาติ

เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกที่รับ Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย และโปรแกรมนี้ไม่ต้องใช้ตัวกลางแปลงเงินเลย — ชำระด้วยคริปโทโดยตรง

Reference: Cointelegraph