ปฏิบัติการ “Midnight Hammer” เขย่าตลาดคริปโท
คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ปฏิบัติการทิ้งระเบิดขนาด 30,000 ปอนด์จากเครื่องบิน B-2 Stealth จำนวน 7 ลำ และปล่อยมิสไซล์ Tomahawk จากเรือดำน้ำโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน ได้แก่ Fordo, Natanz และ Isfahan เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ (BTC) ร่วงทันทีต่ำกว่า $99,000 (ประมาณ 3.59 ล้านบาท) ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
น้ำมันร่วงสวนทาง – บิตคอยน์ดีดกลับเกิน $102,000
แม้จะเกิดเหตุการณ์ทางทหารขนาดใหญ่ แต่ราคาน้ำมันกลับ ลดลงมากกว่า 5% เหลือต่ำกว่า $70 ต่อบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับคาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น หากช่องแคบฮอร์มุซถูกปิด (เส้นทางขนส่งน้ำมัน 1 ใน 5 ของโลก)
ส่วน BTC ฟื้นตัวแรงในวันจันทร์ โดยล่าสุดราคาปรับขึ้น 3.34% ภายใน 24 ชั่วโมง ไปอยู่ที่ $102,916.34 (ราว 3.73 ล้านบาท) หลังร่วงต่ำสุดที่ $98,286.21 ก่อนแตะจุดสูงสุดระยะสั้นที่ $103,016.66
นักลงทุนสถาบันตบเท้าเข้าเก็บ
การย่อตัวของราคาทำให้นักลงทุนรายใหญ่เข้าช้อนซื้อทันที เช่น Metaplanet ที่เข้าซื้อเพิ่ม และนักลงทุนคริปโทชื่อดัง Anthony Pompliano ก็เปิดตัวบริษัทสะสมบิตคอยน์ชื่อ Procap วางแผนระดมทุนถึง $1 พันล้านดอลลาร์ สำหรับคลัง BTC โดยเฉพาะ
ตลาดอนุพันธ์คึกคัก
ข้อมูลจาก Coinglass เผยว่าช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเกิดการล้างพอร์ต (Liquidation) รวม $118.88 ล้าน โดยฝั่ง Short เจ็บหนักกว่า คิดเป็น $69.93 ล้าน เทียบกับ Long ที่โดน $48.95 ล้าน
ในขณะที่มูลค่าตลาดรวมของ BTC ขยับขึ้นมาอยู่ที่ $2.04 ล้านล้านดอลลาร์ (+3.53%) ปริมาณเทรดกลับลดลง 10.02% เหลือ $57.96 พันล้าน สะท้อนว่านักลงทุนบางส่วนยังรอดูสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านอย่างระมัดระวัง
BTC Dominance ยังสูง แม้ลดลงเล็กน้อย
อัตรา BTC Dominance (ส่วนแบ่งตลาดของบิตคอยน์) ขยับลงเล็กน้อยที่ 65.63% แต่ยังถือว่าสูงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า ส่วนตลาด Futures มี Open Interest เพิ่มขึ้น 1.32% แตะ $68.14 พันล้าน
ประเด็นนี้ยังไม่จบแน่ เพราะอิหร่านประกาศเตรียม “ตอบโต้” และประธานาธิบดีทรัมป์เองก็โพสต์ข้อความเตือนอิหร่านผ่าน Truth Social อย่างเด็ดขาด หากมีการตอบโต้จริง
Reference: Bitcoin News