บริษัท Strategy (ชื่อเดิม MicroStrategy) ประกาศเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมว่าได้ซื้อบิตคอยน์เพิ่มอีก 4,020 BTC คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ $427.1 ล้าน ส่งผลให้ยอดถือครองสะสมพุ่งแตะ 580,250 BTC เป็นที่เรียบร้อย

การซื้อรอบนี้ใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุนผ่านโครงการ “at-the-market (ATM) offerings” ที่ดำเนินการระหว่างวันที่ 19–25 พ.ค. โดยมีการขายหุ้น MSTR จำนวน 847,000 หุ้น, หุ้น STRK 678,970 หุ้น และ STRF 104,423 หุ้น รวมแล้วระดมทุนได้กว่า $427 ล้าน ตามเอกสารที่ยื่นต่อ ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC)

Michael Saylor ชี้ชัด เป้าหมายยังอยู่ไกลมาก

Michael Saylor ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริหาร Strategy โพสต์บน X ว่า:

“เราเพิ่งซื้อบิตคอยน์เพิ่ม 4,020 BTC ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ $106,237 ต่อเหรียญ รวมถือแล้ว 580,250 BTC ใช้เงินสะสมไป $40.61 พันล้าน หรือเฉลี่ยราว $69,979 ต่อเหรียญ”

นอกจากนี้ Saylor ยังกล่าวว่า บริษัทยังบรรลุผลตอบแทนจาก BTC (“BTC Yield”) ปีนี้แล้ว 16.8% YTD

จากบริษัทซอฟต์แวร์ กลายเป็น “Bitcoin Treasury Company” เต็มตัว

Strategy ได้รีแบรนด์ตนเองให้กลายเป็น บริษัทขุมทรัพย์บิตคอยน์แห่งแรกของโลก โดยใช้โมเดลการเงินที่ผสานระหว่าง: การออกหุ้น-ออกหนี้ กระแสเงินสดจากธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล (AI/Enterprise Analytics) และกลยุทธ์ซื้อ BTC ต่อเนื่องในฐานะ “ทุนดิจิทัลหลัก”

เป้าหมายระยะยาวของ Saylor: BTC แตะ $13 ล้านต่อเหรียญ

Saylor มองว่าในอนาคต บิตคอยน์อาจมีมูลค่าตลาดสูงถึง $200 ล้านล้าน ราคาอาจแตะ $13 ล้านต่อเหรียญ ภายในปี 2045 โดยมี “กรณีดีสุด” ที่ $49 ล้าน และ “กรณีแย่สุด” ยังอยู่ที่ $3 ล้าน เขายังเสนอว่า หากนำโมเดล Bitcoin Reserve ไปใช้กับงบการคลังสหรัฐฯ อาจช่วยสร้างรายได้ให้รัฐกว่า $16-81 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะยาว

Reference : Bitcoin News