บิตคอยน์จ่อสร้างประวัติศาสตร์ เหลืออีกเพียง 7.44% เพื่อทุบสถิติสูงสุดตลอดกาล

บิตคอยน์ (BTC) กำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ $101,251 ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2025 เหลืออีกเพียง 7.44% ที่จะทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาล ด้วยมูลค่าตลาดที่แตะ $2.01 ล้านล้าน และปริมาณการซื้อขายใน 24 ชั่วโมงอยู่ที่ $58.84 พันล้าน ราคาบิตคอยน์เคลื่อนไหวระหว่าง $95,967 ถึง $101,711 โดยมีแนวโน้มเชิงบวกที่แข็งแกร่ง

กราฟรายวัน: การฝ่าแนวต้านครั้งสำคัญ

ในกราฟรายวัน บิตคอยน์แสดงถึงการทะลุแนวต้านเดิมอย่างชัดเจน พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แนวรับสำคัญอยู่ระหว่าง $93,000 ถึง $95,000 ขณะที่แนวต้านสำคัญถัดไปอยู่ที่ $102,000

นักเทรดอาจพิจารณาเข้าสถานะเมื่อราคาถอยกลับมาที่ช่วง $96,000 – $98,000 โดยวางจุดตัดขาดทุนใต้แนวรับสำคัญที่ $94,000 เพื่อป้องกันการขาดทุนในกรณีที่ราคาเกิดการปรับฐาน

กราฟ 4 ชั่วโมง: ฟื้นตัวรูป V-Shaped พร้อมวอลุ่มทะยาน

ในกราฟ 4 ชั่วโมง บิตคอยน์แสดงรูปแบบการฟื้นตัวรูปตัว V อย่างชัดเจนจากระดับ $93,376 โดยมีวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ระดับ $101,711 ยังคงเป็นแนวต้านสำคัญ หากราคาไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ อาจเกิดแรงเทขายเพื่อล็อกกำไรระยะสั้น

กราฟ 1 ชั่วโมง: การชะลอตัวระยะสั้นและการสะสมแรง

กราฟ 1 ชั่วโมง บ่งบอกถึงการพักตัวหลังการพุ่งขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า แม้ปริมาณการซื้อขายจะลดลง แต่ยังมีแนวรับสำคัญที่ $100,500 และ $99,800

นักเทรดระยะสั้นอาจพิจารณาเข้าสถานะเมื่อราคาย่อตัวลงมาแตะระดับ $99,000 – $99,500 โดยวางจุดตัดขาดทุนที่ $99,500

Oscillators: สัญญาณยังคงเป็นบวก แต่ต้องจับตาใกล้ชิด

ตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (Oscillators) หลายตัวส่งสัญญาณไปในทิศทางบวก ได้แก่:

RSI: 73 (โซนซื้อมากเกินไป)
Stochastic: 88 (โซนซื้อมากเกินไป)
CCI: 158 (โมเมนตัมขาขึ้น)
ADX: 31 (แนวโน้มแข็งแกร่ง)
MACD: 3,121 (ยังคงเป็นบวก)

แม้ตัวบ่งชี้หลายตัวจะอยู่ในโซนซื้อมากเกินไป แต่สัญญาณโดยรวมยังคงเป็นบวก หากราคายังคงยืนเหนือแนวรับ $99,000 – $100,000 ได้อย่างมั่นคง

ทำไมราคาบิตคอยน์ถึงพุ่งขึ้น?

ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าการไหลเข้าของเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น Sui Chung CEO ของ CF Benchmarks กล่าวว่า

“การฟื้นตัวของบิตคอยน์ในครั้งนี้ไม่ได้มาจากโมเมนตัมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาดฝั่งสถาบันอย่างชัดเจน”

ตัวชี้วัดความผันผวนของ CF Benchmarks (BVX) ลดลงกว่า 20% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงการลดลงของความเสี่ยงในตลาด ในขณะที่ตลาด CME Options ก็แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของพรีเมี่ยมฝั่ง Call Options สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในตลาดที่ยังคงแข็งแกร่ง