กองทุน ETF ที่อิงกับคริปโตปิดตลาดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะฝั่ง Spot Bitcoin ETF ที่มีเงินไหลเข้าเกือบ 675 ล้านดอลลาร์ ภายในวันเดียว ตามข้อมูลจาก sosovalue.com แต่จุดที่น่าสนใจคือ… เงินก้อนทั้งหมดถูกดูดเข้าไปที่เดียว: กองทุน IBIT ของ Blackrock เพียงกองเดียว!

Blackrock’s IBIT สะสม BTC ทะลุ 600,000 เหรียญแล้ว

หลังจากรับเงินลงทุนเข้าอีก $674.91 ล้าน กองทุน IBIT ตอนนี้ถือครอง Bitcoin รวมทั้งสิ้น 607,685.49 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ $58.5 พันล้านดอลลาร์ กลายเป็นกองทุน ETF เดี่ยวที่ครอง BTC ได้มากที่สุดในโลก

ในขณะเดียวกัน ETF Spot Bitcoin อีก 11 กองทุนที่เหลือ ไม่มีเงินไหลเข้าเพิ่มเติมเลยในวันเดียวกันนั้น ส่งผลให้ IBIT ครองส่วนแบ่งถึง 51.71% ของ BTC ทั้งหมดที่ถูกถือไว้โดยกองทุน ETF ทั้ง 12 กอง

นับตั้งแต่เริ่มเปิดซื้อขายเมื่อ 11 มกราคม 2024 มาจนถึงตอนนี้ ETF กลุ่ม Spot Bitcoin ทั้งหมดรวมกันมีเม็ดเงินไหลเข้าสะสม $40.24 พันล้านดอลลาร์

ฝั่ง Ethereum ก็เช่นกัน: ETHA ของ Blackrock ยืนหนึ่ง

สถานการณ์คล้ายกันยังเกิดกับ ETF ที่อิงกับ Ethereum ด้วย โดยมียอดเงินไหลเข้าเพิ่มอีก $20.10 ล้านดอลลาร์ และทั้งหมดนั้นไหลเข้าที่เดียวคือ กองทุน ETHA ของ Blackrock ส่วนกองอื่นๆ ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย

ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2024 ETF กลุ่มนี้รวมกันมีเงินไหลเข้าสะสม $2.51 พันล้าน ปัจจุบัน ETF ทั้ง 9 กองทุนถือครอง ETH มูลค่ารวม $6.4 พันล้าน หรือคิดเป็น 2.87% ของมูลค่าตลาดรวมของ Ethereum

ภาพรวมการถือครอง BTC และ ETH ของ ETF ทั้งหมด

  • 12 Spot Bitcoin ETF ถือครองรวม: $113.15 พันล้าน | คิดเป็น 5.87% ของ BTC ทั้งหมด
  • IBIT เพียงกองเดียว ถือไว้: 607,685 BTC | คิดเป็น 51.71% ของ BTC ที่ถือโดย ETF
  • 9 Ethereum ETF ถือครองรวม: $6.4 พันล้าน | คิดเป็น 2.87% ของมูลค่าตลาด ETH

วิเคราะห์เสริม: ทำไม Blackrock ถึงดูดเงินอยู่ฝ่ายเดียว?

  1. ความเชื่อมั่นระดับสถาบัน: นักลงทุนจำนวนมากยังเลือก Blackrock เป็น “แหล่งพักเงินคริปโตที่เชื่อใจได้” ทั้งเพราะแบรนด์ และระบบความปลอดภัยระดับสูง
  2. สภาพคล่องล้นมือ: ยิ่งเม็ดเงินไหลเข้าเยอะ สภาพคล่องยิ่งดี ราคาซื้อขายใกล้เคียงราคาตลาดมากกว่ากองเล็ก
  3. แบรนด์ใหญ่ การตลาดเยี่ยม: Blackrock จัดเต็มด้านการประชาสัมพันธ์และเข้าถึงนักลงทุนระดับโลก

Reference : Bitcoin News